วราวุธนำทัพชาติไทยพัฒนาปราศรัยใหญ่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.กาฬสินธุ์เขต 5

“วราวุธ ศิลปอาชา” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นำขุนพลเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ชูนโยบายรับฟัง ทำจริง แก้กฎหมายด้านเศรษฐกิจ การศึกษา แก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ผลักดันการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นทุกรูปแบบ และเกษตรกรรุ่นใหม่ทำนาเปียกสลับแห้งคาร์บอนเครดิตพร้อมเปิดตัว “แอสป้า ประภาส ยงคะวิสัย” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5 ประกาศปักธงเก้าอี้อย่างน้อย 1 เขต

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 24 มีนาคม 2566 ที่ลานตลาดสดบ้านบ่อ ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วย ดร.อุดม โปร่งฟ้า กรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา นายอนุรักษ์ จุรีมาศ ส.ส.จ.ร้อยเอ็ด และคณะลงพื้นเปิดเวทีปราศรัยหาเสียง พร้อมเปิดตัวนายประภาส ยงคะวิสัย หรือ “แอสป้า” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5 พรรคชาติไทยพัฒนา คนกล้า คนจริงซึ่งเป็นดวงรุ่งพุ่งแรง และเป็นความหวังของพรรคชาติไทยพัฒนา ในการปักธงเก้าอี้ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5 ในการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้ โดยมีประชาชนร่วมรับฟังกว่า 5,000 คน


โดยเวทีการปราศรัยได้เน้นไปที่นโยบาย รับฟัง ทำจริง ชูการเดินหน้าแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการแก้กฎหมายด้านเศรษฐกิจ การศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาด้านราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ การผลักดันกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นทุกรูปแบบ รวมไปถึงนโยบายเกษตรกรรุ่นใหม่ทำนาเปียกสลับแห้งคาร์บอนเครดิต ซึ่งทุกนโยบายสามารถจับต้องได้และยืนยันว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะเดินหน้าทันที
นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่าตนสืบทอดอุดมการณ์ด้านการเมือง ควบคู่กับอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มาจากนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ซึ่งเป็นบิดา โดยมีหลักการทำงานคือปฏิรูปชนบท ลดปัญหาแผ่นดิน ที่ผ่านมาได้รับความไว้วางใจปฏิบัติหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีหลายตำแหน่ง ล่าสุดอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


นายวรวุธกล่าวอีกว่า สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา ได้ดำเนินนโยบายแก้ปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ การเกษตร ทรัพยากรป่าไม้ การบริหารจัดการบ่อขยะ เจาะบาดาล น้ำเพื่อการเกษตร ทำให้ประชาชนในพื้นที่ที่เคยประสบภัยแล้ง มีน้ำเพื่อการเกษตร สามารถประกอบอาชีพ มีรายได้เลี้ยงครอบครัว และยืนด้วยลำแข้งตนเอง ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาก็พร้อมที่จะสานต่อ และพร้อมที่จะเป็นพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล เพื่อเข้ามาบริหารประเทศ และช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนทุกด้าน ดังนั้นหากพี่น้องปะชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าที่ผ่านมา และอยากเห็น จ.กาฬสินธุ์มีความเจริญเหมือน จ.สุพรรณบุรี ขอจงโปรดเลือกทั้งพรรคและผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา


ด้านนายประภาส ยงคะวิสัย หรือ “แอสป้า” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5 พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยยังไม่มีรัฐบาลใดที่มีความจริงใจในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง เพื่อให้ท้องถิ่นได้เป็นอิสระ และบริหารแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว ตามความต้องการข้องพี่น้องประชาชน โดยเพาะเรื่องราคาข้าว มันสำปะหลัง อ้อย และยางพารา ที่ผ่านมายังแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ทุกพรรคมีแต่นโยบายประชานิยม หวังแต่คะแนนเสียง แต่พรรคของเราจะนำนโยบายเหล่านี้ เดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง


นายประภาสกล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปีที่ผ่าน จ.กาฬสินธุ์ ยังไม่มี ส.ส.คนใด สามารถอภิปรายในสภา เรื่องเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศเลยสักคนเดียว ดังนั้นตนชื่อแอสป้า จึงอยากขอโอกาสและขออาสาไปเป็นปาก เป็นเสียง แทนพี่น้องประชาชนในสภาต่อไป ซึ่งหากได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชาวกาฬสินธุ์ เขต 5 สิ่งที่จะเดินหน้าอันดับแรกคือ จะรณรงค์ให้พี่น้องคนไทยทั้งประเทศ สนับสนุนโครงการขุดคลองไทย ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาทำให้กฎหมายกรณีการศึกษาคลองไทยล้มไป ตนจะอาสาเชิญชวนพี่น้องทั่วประเทศรวบรวมรายชื่อเสนอกฎหมายขุดคลองไทยอีกทั้ง รวมทั้งการผลักดันส่งเสริมสนับสนับการท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว ผลักดันการแข่งขันเจ็ตสกีโลกมาทำการแข่วขันที่เขื่อนลำปาว, พระธาตุยาคู โบราณสถานสมัยทวาราวดี บ้านเสมา ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ให้เป็นมกรดโลก เพื่อให้เป็นที่รู้จักของคนไทยและทั่วโลกมายิ่งขึ้น


“นอกจากนี้ ยังจะแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรให้กับพี่น้องชาวกาฬสินธุ์ เนื่องจากพื้นที่และประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยเฉพาะราคาข้าวเปลือกนั้น แหล่งรับซื้อต้องกำหนดราคาเกณฑ์เดียวกัน ก.ก.ละ 20 บาท รวมทั้งช่วยเหลือค่าแรงการเก็บเกี่ยวโดยจัดรถเกี่ยวข้าวหมู่บ้านละ 1 คัน และสวัสดิการครอบครัว เช่น การตั้งครรภ์ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย เด็กกาฬสินธุ์สมองใส ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปได้รับเบี้ยเดือนละ 3,000 บาท เหล่านี้คือบางส่วนของนโยบายพรรคชาติไทยพัฒนา หรือว๊าวไทยแลนด์ ที่มั่นใจว่าโดนใจชาวไทยทั้งประเทศและพี่น้องชาว จ.กาฬสินธุ์” นายประภาสกล่าวในที่สุด