ทรภ.1 ร่วมกับ ศรชล.ภาค 1 บูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้อง จับกุม และร่วมตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมันผิดกฎหมาย ณ ท่าเทียบเรืออู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ กองทัพเรือ

ทรภ.1 ร่วมกับ ศรชล.ภาค 1 บูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้อง จับกุม และร่วมตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมันผิดกฎหมาย ณ ท่าเทียบเรืออู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ กองทัพเรือ


เมื่อวันที่ 5 มี.ค.66 เวลา 03.00 น. จากการปฏิบัติการด้านการข่าวทัพเรือภาคที่1 (ทรภ.1) ได้สั่งการให้ เรือ ต.115 ซึ่งเป็นเรือในบัญชีกำลังของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) ดำเนินการตรวจสอบและจับกุม เรือบรรทุกน้ำมันที่มีพฤติกรรมลักลอบขนน้ำมันผิดกฎหมาย บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ ผลการปฏิบัติ นำไปสู่การจับกุมเรือ ชื่อธนสิทธิ์ มีผู้ควบคุมเรือและลูกเรือจำนวน 6 คน บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ เบื้องต้นบุคคลบนเรือให้การสารภาพว่ามีของกลางเป็นน้ำมันเบนซินที่ไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากรอยู่บนเรือจริง จึงได้ได้ควบคุมเรือดังกล่าว ไปยังท่าเทียบเรืออู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบโดยละเอียดต่อไป


ในวันนี้ (6 มี.ค.66) เวลา 10.30 น. พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทรภ.1/ผอ.ศรชล.ภาค 1 ได้แถลงการจับกุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดและศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสมุทรปราการ สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิตร สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ ชุดปฏิบัติการสืบสวน กองบังคับการตำรวจน้ำ และ ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร โดยแจ้งว่าเรือธนสิทธิ์ได้มีการรับน้ำมันจากเรือ TANKER ซึ่งอยู่นอกบริเวณบังคับใช้กฎหมาย เข้ามาในพื้นที่บริเวณปากร่องน้ำเจ้าพระยาจึงได้สั่งการให้เรือ ต.115 เข้าตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว

โดยหลังจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีปริมาณน้ำมันเบนซินที่ไม่ผ่านการเสียภาษีและมีความผิด ตาม พรบ.สรรพสามิต จำนวน 710,000 ลิตร ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้รับสารภาพและยินยอมชำระค่าปรับเป็นจำนวนเงินประมาณ 14 ล้านบาท นอกจากนี้ในการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรือเพิ่มเติมยังพบว่ามีความผิดตาม พรบ.เดินเรือในน่านน้ำไทย เช่น ใบอนุญาติใช้เรือหมดอายุ ผู้ควบคุมเรือและช่างเครื่องไม่มีประกาศนีบัตรฯ เป็นต้น ซึ่งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ จะได้ดำเนินการกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผบ.ทรภ.1 / ผอ.ศรชล.ภาค 1 ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การลักลอบนำน้ำมันเข้ามาโดยไม่ผ่านการเสียภาษีนั้น ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมากเมื่อตรวจพบจะต้องทำการจับกุมทันที และการจับได้ในครั้งนี้ถือเป็นจำนวนล็อตใหญ่ครั้งหนึ่งที่กองทัพเรือเคยมีมา