กาฬสินธุ์เด้งพ.ต.ท.ถูกร้องเรียกรับเงิน5หมื่นคดีอุบัติเหตุทำเอกสารเอาเบี้ยประกัน

ผู้การฯกาฬสินธุ์สั่งเด้งนายตำรวจยศ พ.ต.ท. อดีตพนักงานสอบสวนสภ.สามชัย หลังถูกญาติผู้เสียชีวิตร้องเรียนกล่าวหาเรียกรับเงิน 5 หมื่นบาท ค่าทำเอกสาร พ.ร.บ.คดีอุบัติเหตุรถจยย.ชนท้ายรถไถพ่วง หวังเอาเงินประกัน สุดท้ายรถไถพ่วงไม่มี พ.ร.บ.ชวดเงินเบี้ยประกัน ย้ำหากผิดจริงดำเนินการขั้นเด็ดขาด


กรณีชาวบ้าน ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆว่าถูกนายตำรวจมีตำแหน่งเป็นพนักงานสอบสวนยศ พ.ต.ท.โรงพักสามชัยเรียกรับเงินจำนวน 5 หมื่นบาท เพื่อเป็นค่าดำเนินการเอกสาร พ.ร.บ.คดีอุบัติเหตุเอาเงินกับบริษัทประกันภัย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ในฐานะดูแลรับผิดชอบงานด้านการสอบสวนตำรวจภูธรจ.กาฬสินธุ์ร่วมกันตรวจสอบเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งการให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง


โดยพล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเบื้องต้นได้รับรายงานและทราบจากทางสื่อแล้วพบว่า นายตำรวจคนดังกล่าวที่ถูกร้องเรียนเรียกรับเงินนั้น เดิมปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งพนักงานสอบสวนที่ สภ.ท่าคันโท จากนั้นได้ย้ายมาช่วยราชการที่ สภ.สามชัย ตำแหน่งพนักงานสอบสวน และล่าสุดได้ย้ายมาเป็นรองผกก.(สอบสวน) ที่ สภ.ฆ้องชัย ทั้งนี้จากการตรวจสอบไปยัง ผกก.สภ.สามชัย ซึ่งเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา เมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.คนนี้ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนที่สภ.สามชัยทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อช่วงเวลา 02.00 วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถไถพ่วง ทำให้คนขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต ทราบชื่อคือนายเกียรติณรงค์ พานประดิษฐ์ อายุ 24 ปี ชาว ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์


ทั้งนี้ได้สอบถามไปยังหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งตรวจสอบแล้วปรากฏว่ารถจักรยานยนต์มี พ.ร.บ. ส่วนรถไถพ่วงไม่มี พ.ร.บ. และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เรียกเงินกับญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 5 หมื่นบาท อ้างว่าจะเอามาเพื่อดำเนินการติดตามเกี่ยวกับหลักฐานในการรับเงินจากบริษัทประกันของจากพ.ร.บ.รถไถ แต่เมื่อสอบสวนไปแล้วปรากฏว่ารถไถกลับไม่มี พ.ร.บ.จึงไม่สามารถเรียกเงินจากบริษัทประกันได้ ทำให้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งได้สอบถามไปยังเจ้าตัวแล้วก็ยอมรับว่าได้เอาเงินกับญาติผู้เสียชีวิตจริง และจะนัดคืนให้ในวันพุธที่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้ เพราะทำเรื่องเบิกค่าประกันไม่ได้ ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตเดือดร้อนและเข้าขอความเป็นธรรมดังกล่าว


พล.ต.ต.สุวรรณ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนได้ออกคำสั่งย้ายนายตำรวจยศพ.ต.ท.ตำแหน่งรองผกก.คนดังกล่าวมาช่วยราชการที่ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์อย่างไม่มีกำหนด จนกว่าผลการสอบสวนจะแล้วเสร็จ พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมีพ.ต.อ.สมพงศ์ มั่นหมาย รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เป็นหัวหน้าสอบสวน ซึ่งหากสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดจริง ก็จะตั้งกรรมการสอบวินัยต่อไป และดำเนินการขั้นเด็ดขาด ทั้งนี้ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ในส่วนเรื่องของคดีอาญานั้นก็ต้องให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งได้เดินทางไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมยังหน่วยงานต่างๆที่กรุงเทพฯ

โดยนางจันทิวาพร เลิศสงคราม อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นน้าของผู้เสียชีวิต ระบุว่า อุบัติเหตุดังกล่าวผู้เสียชีวิตคือนายเกียรติณรงค์ พานประดิษฐ์ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของตน วันนั้นกลับจากทำงานรถจักรยานยนต์ชนท้ายกับรถไถพ่วง หลังเกิดเหตุนายตำรวจ ซึ่งเป็นพนักสอบสวนเจ้าของคดี บอกว่าจะดำเนินการเรื่องเอกสาร พ.ร.บ. เพื่อที่จะเอาเงินกับบริษัทประกันของรถไถพ่วง แต่ต้องเอาเงินมาให้ 5 หมื่นบาทเป็นค่าดำเนินการ


นางจันทิวาพร ระบุอีกว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ญาติของผู้เสียชีวิตจึงนำเงินไปให้ตำรวจจำนวน 2 หมื่นบาท และวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 อีก 3 หมื่นบาท ต่อมาตำรวจคนดังกล่าวกลับบอกว่ารถไถพ่วงไม่มีพ.ร.บ.จึงไม่สามารถเอาเงินกับบริษัทประกันได้ ทางญาติพยายามติดต่อของเงินคืน เพราะนอกจากจะมีคนเสียชีวิตแล้วยังถูกเอาเงินไปอีก รวมทั้งยังไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณี และไม่ได้รับเงินคืน จึงได้เข้าร้องขอเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว เพื่อดำเนินการกับนายตำรวจคนนี้และให้เอาเงินมาคืน