พรรคภูมิใจไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.สงขลา ทั้ง 9 เขต และปราศรัยครั้งแรกที่หาดใหญ่ ชูนโยบายพูดแล้วทำ เน้นพัฒนาคมนาคมและการท่องเที่ยวขับเคลื่อนเมืองหาดใหญ่ และสงขลา

พรรคภูมิใจไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.สงขลา ทั้ง 9 เขต และปราศรัยครั้งแรกที่หาดใหญ่ ชูนโยบายพูดแล้วทำ เน้นพัฒนาคมนาคมและการท่องเที่ยวขับเคลื่อนเมืองหาดใหญ่ และสงขลา


เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 18 ก.พ. 66 ที่ลานจัตุรัสหน้าหอนาฬิกาเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทางพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ทั้ง 9 เขต รวมทั้งเปิดปราศรัยเป็นครั้งแร หลังมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. ไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อช่วงปลายที่ผ่านมา
โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยทีมยุทธศาสตร์ จ.สงขลา พรรคภูมิใจไทย นำทีมพบปะกับพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่ และชาวสงขลา ที่เดินทางมาร่วมจำนวนหลายพันคนจนแน่นเต็มพื้นที่ ขณะที่ ดร.นาที รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทร ติดภารกิจมาสามารถเดินทางมาร่วมได้


ซึ่งในช่วงแรกได้มีเปิดเวทีให้ว่าที่ผู้สมัคร สส. บางเขต ได้ขึ้นมาพบปะพูดคุยกับปะชาชนถึงวิสัยทัศน์ และแนวทางการแก้ปัญหา หรือการพัฒนาในแต่ละพื้นที่ ก่อนที่ทาง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะขึ้นเวที และมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. จ.สงขลา ซึ่งในปีนี้มีการแบ่งเป็น 9 เขต
ประกอบด้วย เขต 1 นายประสงค์ บริรักษ์ เขต 2 นายเจษฏาพงศ์ ชูแก้ว เขต 3 ดร.ไพร พัฒโน เขต 4 ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์ เขต 5 นายอนลอัทธ์ พลธนนินท์ธัญ เขต 7 นายณัฏชนน ศรีก่อเกื้อ เขต 8 นายวสันต์ ชั่งหมาน และ เขต 9 นายสมชาย เล่งหลัก ส่วนเขต 6 ยังว่าง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ดีใจทุครั้งที่ได้เดินทางมายังบ้านเกิด และขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มาร่วมเวทีนี้กันอย่างเนืองแน่น โดยการเลือกตั้งในครั้งนี้ทางพรรคภูมิใจไทย ตั้งเป้าที่ จ.สงขลา จะกวาดเก้าอี้ สส. ได้มากกว่าการเบือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่ได้ไป 1 คน คือ ที่ เขต 7 นายณัฏชนน ศรีก่อเกื้อ ซึ่งที่ผ่านมา เชื่อว่า ผลงานทั้งจาก สส. ในพื้นที่ และการทำงานขับเคลื่อนนโยบายของพรรค ได้สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์


โดยเฉพาะในด้านการคมนาคม ถนนหนทางต่างที่สะดวกสบายมากขึ้น และด้านการท่องเที่ยว เช่น ที่หาดใหญ่ ซึ่งเป็นหัวเมืองหลักอีกแห่งหนึ่งของการการค้า การท่องเที่ยว ในภาคใต้ ซึ่งซบเซาอย่างหนักในช่วงโควิด 19 แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคี่คลาย และมีการเปิดประเทศ ก็ได้เร่งบริการจัดการในการกระตุ้นด้านการค้า การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของคนในพื้นที่ ให้ฟื้นกลับคืนมาโดยเร็ว
และประสบความสำเร็จ จากล่าสุดที่การจัดงานเค้าดาวน์ และงานเทศกาลตรุษจีน ที่ผ่านมา ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่เป็นกลุ่มหลัก ดินทางมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมากเกมอนเดิม รวมทั้งช่วงวันหยุดก็มีกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวอีกหลากกลายรูปแบบ รวมทั้งการวางแผนการท่องเที่ยวงานใหญ่ในช่วงต่อไปคือ เทศกาลสงกรานต์ที่จะยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน และมีการจัดทั้งในหาดใหญ่ และที่สงขลา


นอกจากนั้นยังมีการวางแผนงานด้านการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆให้กับเมืองหาดใหญ่ด้วย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งหลังเสร็จจากเวทีนี้ ตนก็จะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อพบปะพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเมืองใหญ่ของจีน ทั้ง เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เฉินตู และ กวางเจา เพื่อให้มีเที่ยวบินตรงจากจีนมาลงที่สนามบินหาดใหญ่ โดยระยะแรกวางแผนวันละ 1 เที่ยวบิน ซึ่งที่สนามบินหาดใหญ่สามารถให้การรองรับนักท่องเที่ยวได้อีกจำนวนมาก


สำหรับรายได้ด้านการท่องเที่ยวของ จ.สงขลา ในช่วงปี 62 จากชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนรวมราว 60,000 ล้านบาท และคาดว่า ในปีนี้หากมีการขับเคลื่อนเต็มรูปแบบจะสามารถสร้างรายได้ให้จังหวัดได้ราว 80,000-100,000 ล้านบาท
รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวด้วยว่า พรรคภูมิใจไทย เน้นนโยบาย “พูดแล้วทำ” และการเลือกตั้งในครั้งนี้ที่ จ.สงขลา มี 9 เขต ตนขอไม่มากขอแค่ 9 เขต ซึ่งเชื่อว่า หากประชาชนให้ความเชื่อมั่น และไว้วางใจ จะทำให้เห็นการพัฒนาในภาพรวมของ จ.สงขลา ทั้งจังหวัดเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน และการได้ สส. ของจังหวัดมากเท่าไหร่ การอภิปรายในสภา หรือการเร่งรัดในการขอสนับสนุนงบประมาณ หรืออื่นๆ เพื่อนำมาแก้ไขปัญหา และพัฒนาพื้นที่ ก็จะมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วตามไปด้วย
/////