สระบุรี/เกษตรกร 2อำเภอร้องถูกหลอกให้ปลูกกระท่อมส่งขายบริษัทถึงกำหนดนัดหายจ้อยสูญนับสิบล้านบาท

สระบุรี/เกษตรกร 2อำเภอร้องถูกหลอกให้ปลูกกระท่อมส่งขายบริษัทถึงกำหนดนัดหายจ้อยสูญนับสิบล้านบาท

ร้องผู้สื่อข่าว เกษตรกรหนองแคสระบุรี/หนอง เสือปทุมธานี 2 อำเภอกว่า 100 ราย ถูกหลอกให้ปลูกกระท่อม ซื้อต้นกล้าได้ผลผลิตแล้วให้ส่งขายบริษัทถึงกำหนดนัดรับของ สรุปนานกว่า 5 เดือนหายจ้อยสูญนับสิบล้านบาทแจ้งความตำรวจรวบรวมข้อมูล ที่สวนรัฐชัย เลขที่ 3/9 หมู่ 10 ต.หนองโรง อ.หนองแค จ.สระบุรี ของนางมนัสนันท์ จอมคง อายุ 50 ปี หรือเจ้ (เรณู) สถานที่ตั้งโรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ได้มีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกต้นกระท่อมในเขต อ.หนองแค จ.สระบุรี และ เกษตรกร ในเขต อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี (ผู้เสียหาย) จำนวนเกือบ 100 ราย พากันมารวมตัวเพื่อรอฟังคำตอบ จากตัวแทนบริษัท แห่งหนึ่ง ที่ก่อนหน้านี้ได้มาลงบันทึกข้อตกลงเป็นบริษัทร่วมค้ากันไว้เกี่ยวกับเรื่องการรับซื้อใบกระท่อมระหว่าง( 2 บริษัท) แต่ไม่สามารถตกลงกันได้


นางมนัสนันท์ จอมคง (เรณู) เปิดเผยว่า เกษตรกร อ.หนองแค ปลูกพืชหลายอย่างต่อมาได้มี อดีตข้าราชการเกษตรเกษียณอายุราชการแจ้งว่าเป็นหัวหน้าศูนย์จำหน่ายต้นกล้า (กระท่อม) ของบริษัทแห่งหนึ่ง ได้มาชักชวนให้ลงทุนปลูกต้นกระท่อมส่งขายให้กับบริษัทดังกล่าว โดยจะรับซื้อใบกระท่อมไม่อั้น ซึ่งมีข้อตกลงกันว่า บริษัท จัดส่งต้นกล้ามาให้ในราคาต้นละ 100 บาท หรือหากใครที่ปลูกต้นกระท่อมไว้ก่อนแล้วประสงค์จะขายใบกระท่อมให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ต้องเสียค่าลงทะเบียนให้กับบริษัท ต้นละ 100 บาทเช่นเดียวกัน ตนจึงได้ชักชวนเกษตรกรในพื้นที่ อ.หนองแค และ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เข้าร่วมเครือข่ายเพื่อส่งขายใบกระท่อมให้กับ บริษัทแห่งหนึ่ง รวมๆกันแล้วกว่า 100 ราย มีทั้งเสียค่าซื้อต้นกล้า กับเสียค่าลงทะเบียนต้นกล้า แต่ละรายนับแสนบาท หากรวมๆกันแล้วคาดว่ามากกว่า 20 ล้านบาท


นางมนัสนันท์ ให้รายละเอียดต่อว่า บริษัทแห่งหนึ่งได้ให้ความหวังไว้มากเกี่ยวกับการที่จะรับซื้อใบกระท่อมแบบไม่อั้น พร้อมแนะนำว่าจะซื้อขายกับตนให้ตั้งบริษัท ไปทำความตกลง MOU กับเกษตรกรที่อื่นๆเพื่อจัดส่งสินค้าให้เขา ตนก็ได้ไปทำความตกลงกับกลุ่มเกษตรกร ที่ จ.กาฬสินธุ์ ไว้เพื่อให้ส่งใบกระท่อมให้กับบริษัท ของตนเพื่อรวบรวมขายให้ บริษัท ฯ แต่ก่อนรับซื้อจำเป็นต้อง “อบ” ใบกระท่อมสดให้”แห้งก่อน” ทางผู้บริหารแนะนำให้ ก่อสร้างโรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขึ้น เพื่อรองรับใบกระท่อมจากกลุ่มเกษตรกรที่อื่นๆ โดยก่อนหน้านี้ตนได้ไปว่าจ้างให้ โรงอบแห้งที่ จ.นครสวรรค์ อบแห้งให้แต่มีค่าใช้จ่ายสูง ตนจึงตัดสินใจก่อสร้าง “โรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์” ขึ้นเสียเองเลย พร้อมโรงเก็บใบกระท่อมอบแห้งอีกหนึ่งหลังที่อยู่ติดกัน มูลค่ากว่า 1 ล้าน 4 แสนบาท เมื่อก่อสร้างโรงอบแห้งฯ เสร็จเรียบร้อย เจ้าของบริษัท แห่งหนึ่งได้เดินทางมาดู และไลด์สดทางโชเชี่ยลให้กลุ่มเกษตรกร ผู้ปลูกใบกระท่อมได้ดูขั้นตอนการทำงานของโรงอบแห้ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ให้กลุ่มเกษตรที่ร่วมเครือข่าย

และต่อมาเมื่อเดือน กันยายน 2565 ตกลงจะมีการซื้อขายใบกระท่อมกันขึ้น (ล็อตแรก) 490 ก.ก. มูลค่า 1 แสนบาทเศษ เมื่อถึงเวลานัดหมาย ทางบริษัทฯ ก็ไม่นำเงินมาจ่ายให้แต่อย่างใด เมื่อทวงถาม ก็บ่ายเบี่ยงอ้างโน่นนี่ไปเรื่อย จากบัดนั้น จนขณะนี้กว่า 5 เดือนเศษ และกลุ่มเกษตรกร ที่เข้าร่วมเครือข่ายกับตนได้มาทวงถามเร่งรัดค่าใบกระท่อม ที่ส่งมาขายให้กับตน(คนกลาง) ตนจำเป็นต้องสำรองจ่ายไปก่อนบ้างแล้วนับแสนบาท และในวันนี้ ( 1 ก.พ.2566) บริษัท ได้นัดแนะให้ตัวแทน บริษัท มาชี้แจง กับเกษตรกร เรื่องการรับซื้อใบกระท่อม แต่ผู้แทน ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ อ้างว่า บริษัท ให้มาก็มา เมื่อถูกกลุ่มเกษตรกรรุกเร้าหนักขึ้น ก็ได้ชิ่งขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป พวกตนจึงพากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองแค ให้ดำเนินคดีกับ บริษัท แห่งนี้ต่อไป

/ ดำรงค์ ชื่นจินดา /รายงาน