สงขลา-ตำรวจกองปราบตามรถกระบะที่ถูกขบวนการหลอกเช่ารถไปจำนำคืนให้เจ้าของพบปลอมแปลงสำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถและคู่มือจดทะเบียนรถเพื่อใช้ในการจำนำ

สงขลา-ตำรวจกองปราบตามรถกระบะที่ถูกขบวนการหลอกเช่ารถไปจำนำคืนให้เจ้าของพบปลอมแปลงสำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถและคู่มือจดทะเบียนรถเพื่อใช้ในการจำนำ

วันนี้(17พ.ย.65)พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. พ.ต.ท ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิญโย , พ.ต.ท วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป. , พ.ต.ท.ทศพล กิติลาภ สว.กก.6 บก.ป. , ร.ต.อ.อนุวัฒน์ ณ ปัตตานี รอง สว.กก.6 บก.ป.ได้ตามยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว สี่ประตู หมายเลขทะเบียน กอ 7673 ชลบุรี ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะที่ถูกขบวนการหลอกเช่ารถไปจำนำ นำไปจำนำไว้ที่คอกรับจำนำรถแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คืนมาได้อีก 1 คัน

หลังจากที่หลอกเช่ามาจากเจ้าของรถรายหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่โชคดีที่ตำรวจกองปราบสามารถติดตามรถคันนี้คืนมาได้ ซึ่งอาจจะถูกนำไปขายต่อในตลาดมืดหรือส่งไปชำแหละแยกชิ้นส่วน

โดยพบว่ารถกระบะคันนี้ถูกปลอมแปลงเอกสารในสำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถโดยแก้ไขวันเดือนปีเกิดและนำรูปของผู้หญิงอีกคนมาสวมแทน รวมทั้งมีการแก้ไขรายการจดทะเบียนรถด้วยเพื่อใช้ในการจำนำ

ทางตำรวจกองปราบจึงส่งมอบรถคืนให้กับเจ้าของที่มารับ โดยมี นายกูอัรชัด ราชมุกดา อายุ 25 ปี พร้อมกับแฟนสาวซึ่งเป็นผู้เช่ารถกระบะคันนี้มายืนยันแสดงความบริสุทธิ์ใจกับทางเจ้าของรถและตำรวจกองปราบว่าไม่ได้อยู่ในขบวนการหลอกเช่ารถไปจำนำ

แต่ถูกหลอกให้มาเช่ารถเหมือนกัน และต้องยอมจ่ายเงินค่าไถ่รถกระบะคันนี้คืนมาเป็นเงิน 8 หมื่นบาทด้วยรวมทั้งจ่ายส่วนต่างให้กับเจ้าของรถในช่วงที่รถถูกนำไปจำนำอีกเกือบ 1 หมื่นบาท

นายกูอัรชัด เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนกับแฟนสาวถูกเจ้าของรถเช่าหลายรายใน อ.หาดใหญ่ แจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงจากการที่ไปเช่ารถและถูกนำไปจำนำต่อ และยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการนี้เพราะถูก นายมูหัมหมัดอามิน สาลาจะ อายุ 42 ปี ที่เป็นตัวการใหญ่หลอกมาเหมือนกัน

นายกูอัรชัด บอกว่า รู้จักกับนายมูหัมหมัดอามิน เพราะมีบ้านอยู่ใกล้กันที่จ.นราธิวาส และติดต่อชักชวนให้มาร่วมทำธุรกิจรับเหมาถมที่ และหลอกให้ตนกับแฟนสาวไปเช่ารถมา 5 คันเป็นกระบะ 3 คันและ เก๋ง 2 คันอ้างว่านำมาใช้ในงานรับเหมา แต่มารู้ภายหลังว่ารถทั้ง 5 คันถูกนำไปจำนำต่อและตนเองกับแฟนสาวก็ถูกแจ้งความดำเนินคดีและถูกกล่าวหาว่าร่วมขบวนการนี้ด้วย

จึงพยายามติดตามรถคืนมาครบทั้ง 5 คัน บางคันต้องยอมจ่ายเงินค่าไถ่รถเองและหลังจากนี้ก็ต้องจ่ายส่วนต่างของเงินค่าเช่ารถให้กับเจ้าของรถเช่าด้วยระหว่างที่ถูกนำไปจำนำต่อซึ่งรวมเกือบ 3 แสนบาท และยังกลายเป็นจำเลยสังคมว่าอยู่ร่วมในขบวนการหลอกเช่ารถไปจำนำด้วย

ด้านตำรวจกองปราบเผยว่าตัวเลขรถในส่วนที่ตำรวจกองปราบได้รับการประสานจากผู้เสียหายซึ่งถูกหลอกเช่ารถไปจำนำมีกว่า 20 คันและทยอยตามยึดคืนมาได้เกือบทั้งหมดเหลือยู่อีกประมาณ 4 คันที่ยังตามไม่พบและบางคันพบเบาะแสว่าถูกนำขึ้นไปอยู่ที่กรุงเทพฯซึ่งอาจจะถูกนำไปชำแหละแยกชิ้นส่วนหรือขายต่อในตลาดมืด

 

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา