นายกสมาคมศิษย์เก่าคณะทรัพย์ ม.อ. ประกาศเจตนารมณ์ เปิดตัวโครงการ CSR ชาวทรัพย์หัวใจรักษ์โลก ปลูกต้นไม้ภายใต้ชื่อ ต้นไม้ คือ ทรัพย์

นายกสมาคมศิษย์เก่าคณะทรัพย์ ม.อ. ประกาศเจตนารมณ์ เปิดตัวโครงการ CSR ชาวทรัพย์หัวใจรักษ์โลก ปลูกต้นไม้ภายใต้ชื่อ ต้นไม้ คือ ทรัพย์


สมาคมศิษย์เก่าคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ คณะทรัพยากรธรรมชาติ และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดโครงการ CSR “ต้นไม้ คือ ทรัพย์” ภารกิจชาวทรัพย์ หัวใจรักษ์โลก หวังเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมปลูกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดโลกร้อน ปลูกฝัง-สร้างความตระหนักรู้ให้นักศึกษาทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต มีส่วนร่วมสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยถือเป็นภารกิจหลักของทุกคน พร้อมทั้งส่งต่อภารกิจให้กับศิษย์เก่าคณะทรัพยากรธรรมชาติเพื่อไปสานต่อโครงการฯ ร่วมกับชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ


เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2565 ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมด้วย รศ. ดร.ไชยวรรณ วัฒนจันทร์ คณบดีคณะทรัพยากรธรรมชาติ นายแพทย์เกียรติศักดิ์ ราชบริรักษ์ นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นายสมคิด จันทร์นก นายกสมาคมศิษย์เก่าคณะทรัพยากรธรรมชาติ ผู้แทนศิษย์เก่า คณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษา เปิดกิจกรรม CSR “ต้นไม้ คือ ทรัพย์” ณ อาคาร NR Market Place คณะทรัพยากรธรรมชาติ ม.อ. โดยมีการปลูกต้นศรีตรัง ต้นการบูร บริเวณแนวรั้วฟาร์มปฏิบัติการสาขาวิชานวัตกรรมการผลิตสัตว์และการจัดการ พร้อมทั้งส่งมอบต้นไม้ให้ผู้แทนรุ่นของศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบันในการนำไปปลูกจำนวนกว่า 250 ต้น


กิจกรรมในครั้งนี้ศิษย์เก่า NR Series 8 ได้ร่วมมือกันจัดเป็นกิจกรรม Kick off โครงการ CSR “ต้นไม้ คือ ทรัพย์” ครั้งที่ 1 โดยมุ่งหวังให้เป็นกิจกรรมที่สื่อถึงความเป็นชาวทรัพย์ เป็นคณะทรัพยากรธรรมชาติ ตามปณิธานของพระสมเด็จพระราชบิดา “ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง” ดังนั้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว พื้นที่ป่า ให้กับพื้นที่คณะทรัพยากรธรรมชาติ และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงเป็นที่มาของโครงการในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมุ่งหวังให้เกิดการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาคมศิษย์เก่าคณะทรัพยากรธรรมชาติ คณาจารย์ บุคลากร และศิษย์ปัจจุบันคณะทรัพยากรธรรมชาติ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รวมถึงสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้ให้การสนับสนุนด้านต่างๆ ในอนาคต และสามารถขยายผลต่อยอดโครงการฯ โดยร่วมกับองค์กรชุมชนต่างๆ ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน