กาฬสินธุ์ ปวีณาลงพื้นที่ติดตามคดีครูพละข่มขืนนักเรียนม.1

“ปวีณา หงสกุล”ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีครูพละข่มขืนนักเรียนหญิง ม.1วัย 13 ปี ในพื้นที่อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เบื้องต้นพบเด็กมีความเครียดหนัก ขณะที่ตำรวจระบุ ครูติดต่อขอเข้ามอบตัว แต่หากไม่มาภายในวันพรุ่งนี้เตรียมออกหมายจับ


ความคืบหน้าผู้ปกครองนักเรียนหญิงชั้น ม.1 อายุ 13 ปี ชาว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งไปเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัว อ.กุฉินารายณ์ และเป็นนักกีฬาชมรมวิ่งของโรงเรียน ถูกครูชายสอนวิชาพละเรียกไปหาที่ห้องพัก เพื่อให้นวด ก่อนหลอกให้ดื่มน้ำผสมอะไรบางอย่างจนสลบ พอตื่นขึ้นมาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เจ็บอวัยวะเพศ ตรวจร่ายกายพบอวัยวะฉีกขาด คาดว่าจะถูกข่มขืน ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้ปกครองพาไปแจ้งความที่สภ.กุฉินารายรณ์ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ก่อนที่มีคนนำข้อความไปโพสต์ในโลกโซเชียล และมีการวิพากษ์ วิจารณ์กันอย่างมาก


ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 ตุลาคม 2565 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางพร้อมแม่เด็กผู้เสียหายไปพบ พ.ต.อ.บัณฑิต สิงห์ประชา ผกก. สภ.นารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามคดีกรณีครูพละข่มขืนเด็กนักเรียน อายุ 13 ปี จนต้องแอดมิดนอนโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอำเภอนาดคู เนื่องจากเครียดจิตตกหนัก โดยมีนายปราญญา อุ่นเพชรวรากร รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายวีรดนย์ ศิริ นายอำเภอกุฉินารายณ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมติดตามคดี นอกจากนี้ยังมีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมาให้กำลังใจครอบครัวนักเรียนหญิงอีกด้วย โดยใช้เวลาพูดคุยในห้องประชุมกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นนางปวีณา พร้อมแม่เด็ก ได้เดินทางไปเยี่ยมเด็กที่ รพ.นาคู ที่นอนรักษาฟื้นฟูสภาจิตใจ


โดยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ระบุว่า สืบเนื่องจากวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา แม่นักเรียนหญิงอายุ 13 ปี ซึ่งเป็นนักกีฬาโรงเรียน ขณะที่เก็บตัวซ้อมกีฬา ได้นอนอยู่หอพัก ถูกครูชายสอนพละลวงไปข่มขืน โดยจากการสอบถาม แม่ของเด็กเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 55 ลูกสาวจะต้องเข้าไปเก็บตัวซ้อมกีฬาวิ่ง นอนที่หอพัก โดยมีเพื่อน นักกีฬา ไปเก็บตัวกัน 10 กว่าคน ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. ครูพละได้เรียกลูกสาวไปพบเพียงคนเดียว หลังจากเข้าไปในห้องครู และบอกจะนวดขาให้ถูกสาว

เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวติดโควิด ไม่ได้ซ้อมวิ่งมาระยะหนึ่งแล้วกลัวว่ากล้ามเนื้อจะฉีก ระหว่างที่ครูนวดขาลูกสาวรู้สึกง่วง และสลึมสลือ ครูจึงให้ลูกสาวนอนพักที่ห้องของครูก่อน กระทั่งกลางดึกรู้สึกตัวขึ้นมาครูกำลังข่มขืน แต่ลูกสาวไม่สามารถสู้แรงได้ เช้าวันรุ่งขึ้นที่ 18 พ.ค. 55 ลูกสาวจึงได้นำ เรื่องไปบอกกับนักเรียนกีฬารุ่นพี่ที่เก็บตัวด้วยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นักเรียนรุ่นพี่จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้ผู้ปกครองทราบเรื่อง 19 ต.ค. 55 จึงรับไปรับตัวลูกสาวเข้าแจ้งความทันที แต่เกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากครูผู้กระทำ รู้จักคนเยอะ และกว้างขวางในพื้นที่ ซึ่งแม่ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จึงตัดสินใจติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาดังกล่าว


โดยหลังรับแจ้งเรื่อง นางปวีณา ได้ประสานไปยัง พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภาค4, พล.ต.ท.สุวรรณ เอี่ยวนานวัช ผบก จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.บัณฑิต สิงห์ประชา ผกก. สภ.วุฒินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ และลงพื้นที่ติดตามคดี โดยให้เร่งสอบปากคำกับทีมสหวิชาชีพภายในวันอังคาร ที่ 25 พ.ศ. 55 นี้ แต่เนื่องจากเด็กมีภาวะเครียดจัดหนักต้องดูแลเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า ครูชายผู้ถูกกล่าวหาได้ติดต่อกับพนักงานสอบสวนสภ.กุฉินารายณ์ เพื่อจะขอเข้ามามอบตัว แต่ขณะนี้ยังไม่มา ซึ่งหากวันพรุ่งนี้ยังไม่ติดต่อหรือเดินทางมา เจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับต่อไป