เมือง ไม้ขมบทความพิเศษ ติดตาม”ข่าวสาร” การพัฒนาภาคใต้ของรัฐบาล ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา “ เป็น”นายกรัฐมนตรี”

เมือง ไม้ขมบทความพิเศษ
ติดตาม”ข่าวสาร” การพัฒนาภาคใต้ของรัฐบาล ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา “ เป็น”นายกรัฐมนตรี”

มาโดยตลอด โดยเฉพาะหลังจากที่”รัฐบาล” ชุดนี้มีการ”ยกเลิก”โครงการ”อภิมหาโปรเจกส์” ที่เกี่ยวกับ”ท่าเรือน้ำลึก” ที่ อ.ละงู จ.สตูล และ”ทางรถไฟ” เพื่อการ”เชื่อมต่อ” ในการ “ขนส่งสินค้า” จาก”ท่าเรือน้ำลึก” ที่ จ.สตูล มายัง จ.สงขลา ซึ่งถือว่าเป็นการ”ดับฝัน” ของการ พัฒนาภาคใต้ตอนล่างไปแล้วอย่างสิ้นเชิง โดย หมดงบประมาณ ในการ”ศึกษา” โน่น นี่ นั้น ไปแล้ว จำนวนหนึ่ง
และก็พบว่า รัฐบาลที่มาจากการ”เลือกตั้ง” ที่มี”บิ๊กตู่” เป็น “ผู้นำประเทศ” มี กระทรวง”คมนาคม” ที่เป็น”โควตา” ของพรรคภูมิใจไทย เป็น รัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม ได้เสนอแผนพัฒนาภาคใต้โดยการทำเป็น”แลนด์บริจด์” เพื่อเชื่อมสองฝั่งทะเล จากฝั่งอ่าวไทย ที่ จ.ชุมพร ไปยัง ฝั่งทะเลอันดามัน ที่ จ.ระนอง ซึ่งถือเป็น”อภิมหาโปรเจกส์” ที่รัฐบาล ต้องทำเอง โดยใช้เงินงบประมาณ 400,OOO ล้านบาท

และ ทั้งหมดเป็นเพียง”แผนงาน” ใน”กระดาษ” ที่เห็นเพียง”รูปร่าง” แต่ ยังไม่น่าเชื่อว่า จะ”ได้ทำ” หรือ”ทำได้”จริง เพราะ ยังมีปัญหาของการศึกษา และมี อุปสรรค อีกมาก โดยเฉพาะใน”ทะเลอันดามัน” ที่มีพื้นที่”ทับซ้อน” กับ ประเทศ” อย่างน้อยที่เป็น”เกาะ” ก็ 3 เกาะด้วยกัน และที่สำคัญ งบประมาณจำนวนมหาศาล รัฐบาล จะเอามาจากไหน ในสภาพที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะ”เศรษฐกิจทรุดโทรม” หรือ “ถังแตก” อย่างที่เป็นอยู่
ที่ยกเอาเรื่องของ”แลนด์บริจด์” และเรื่องรัฐบาล”ถังแตก” ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับโครงการ”แลนด์บริจด์” ของ กระทรวงคมนาคม เพียงแต่ต้องการ”เปรียบเทียบ” กับ โครงการ”เมืองต้นแบบ” ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นโครงการ”อภิมหาโปรเจกส์” เช่นกัน และเป็นโครงการที่ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ครม.ให้ความเห็นชอบผ่านทาง “กพต.” หรือ คณะกรรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน


โครงการ”เมืองต้นแบบ” ที่ อ.จะนะ หรือ”เมืองอุตสาหกรรมจะนะ” เป็น”อุตสาหกรรมสีเขียว” ที่เป็น”นวัตกรรม”ใหม่ของ อุตสาหกรรมยุคใหม่ ที่ไม่มีเรื่องของ”ปิโตรเคมี” เข้ามาเกี่ยวข้อง ที่สำคัญเป็นโครงการที่ รัฐบาล ไม่ต้องใช้งบประมาณในการลงทุน เพราะ”ภาคเอกชน” ที่ เข้ามาลงทุน เป็นผู้ดำเนินการเองในวงเงิน 600,000 ล้าน และ สามารถเดินหน้าโครงการได้ทันที ที่ผ่านการทำเรื่อง”สิ่งแวดล้อม” และเรื่องของ”ผังเมือง” ตามกฎหมายสำเร็จ
แต่แปลก ที่โครงการนี้ กลับไม่ได้รับการกล่าวถึงจากกระทรวงต่างๆ รวมทั้ง นักการเมือง ในพื้นที่ และในการดำเนินการเพื่อการ”ขับเคลื่อน” ที่ เปลี่ยนมือ จาก”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ( ศอ.บต.) มาเป็น “สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” ( สศช.) ก็มีความล้าช้า ในการขับเคลื่อน ยิ่งกว่าการเดินทางของ”หอยทาก” จนแทบจะไม่มีเห็นความ”คืบหน้า” เพื่อแสดงความ”ก้าวหน้า”ของโครงการเมืองต้นแบบ” แห่งนี้แต่อย่างใด
แม้แต่เรื่องของการ “ศึกษา” ในเรื่องของ “สิ่งแวดล้อม” ใน วงเงิน 80 ล้านบาท ก็มีการใช้เวลาถึง 3 ปี ที่ แสดงให้ว่าต้องการ”เตะถ่วง”ไม่ให้มีการเดินหน้าของโครงการ ทั้งที่วันนี้ องค์กรเอกชนใน จ.สงขลา โดยการนำของ หอการค้า และ เครือข่าย ทางธุรกิจและสังคม ประกาศชัดว่า พร้อมสนับสนุน”เมืองต้นแบบ”แห่งนี้ ถ้าทำตามกฎหมาย สิ่งแวดล้อม แล้วเสร็จ ดังนั้นการ ดึงการศึกษาสิ่งแวดล้อมถึง 3 ปี หมายความว่าอย่างไร เรื่องนี้ “สภาพัฒน์” ต้องมีคำตอบให้กับคน สงขลา และ คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะ วันนี้ คนส่วนใหญ่เชื่อว่า”สภาพัฒน์” ไม่เห็นด้วยกับโครงการ”เมืองต้นแบบ”ของ”เอกชน” จึงทำให้การดำเนินการล่าช้า ไม่เป็นไปตามความต้องการของ ประชาชน และ นักธุรกิจ ในพื้นที่


เรื่องทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า เศรษฐกิจ ของรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐ ประธาน คณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( กพต.) ต้องทำการ พิจารณาในเรื่องของการ ขับเคลื่อน “เมืองต้นแบบ” ที่ อ.จะนะ เสียใหม่ เพราะวันนี้ สถานการณ์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ตอบโจทย์ ทั้งกับ ประชาชน และ เอกชน ทั้งในเรื่องการ ลงทุน และ ในเรื่อง การว่างงาน การ สร้างอาชีพ ที่ ยิ่งปล่อยให้การ พัฒนา เป็นไปด้วยความล่าช้า จึงเป็นการซ้ำเติม สถานการณ์ทั้งเรื่อง เศรษฐกิจ และ เรื่อง ปากท้อง ของคนรากหญ้า ให้ เลวร้ายยิ่งขึ้น
ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความ จริงใจ ในการ พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องมีการ “พูดคุย” กับ”สภาพัฒน์” ให้ เร่งดำเนินการ ขับเคลื่อน เมืองต้นแบบที่ อ.จะนะ ให้มีความ รวดเร็ว และ ก้าวหน้า ให้มากกว่านี้ และในขณะเดียวกับ ถ้ากลัว “เอ็นจีโอ” จน ไม่กล้าที่จะ เดินหน้าต่อไป ก็บอก ประชาชน ให้ชัดเจนว่า “เมืองต้นแบบ”ที่ อ.จะนะ รัฐบาล ได้ทำการ”ยกเลิก”แล้ว ประชาชน และ นักธุรกิจ นักลงทุน จะไม่ต้องคาดหวัง กับ รัฐบาล อีกต่อไป