อบต.คลองคะเชนทร์ ร่วมกับ ชาวบ้าน จัดประเพณีงานบุญวันออกพรรษา “ ขอทานข้าวต้มมัด” โดยจัดให้มีขบวนแห่ที่มี กัณหาชาลี ที่ถูกชูชกบังคับให้มาขอทานข้าวต้มมัด ซึ่งเป็นตำนานในพุทธชาดก ซึ่งยุคปัจจุบันจึงกลายเป็นประเพณีที่จัดขึ้นของชาวบ้านในการจัดเตรียมภัตตาหารเพื่อจะนำไปทำบุญตักบาตรถวายพระสงฆ์ในช่วงเช้าของวันออกพรรษา

วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2565 นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร , นายพิศ วิริยะอารีธรรม ประธานสภา อบจ.พิจิตร ร่วมกันเป็นประธานในงานสืบสานประเพณีงานบุญวันออกพรรษา “ ขอทานข้าวต้มมัด” ที่จัดขึ้นโดย นายศุภกิจ กัยกิจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองคะเชนทร์ ร่วมกันนำชาวบ้าน จัดกิจกรรมดังกล่าว

ซึ่งได้จัดให้มีขบวนแห่ที่มี กัณหา-ชาลี ที่ถูกชูชกบังคับให้มาขอทานข้าวต้มมัดจากชาวบ้าน ซึ่งเป็นตำนานในพุทธชาดก โดยในปีนี้ได้จัดให้มีขบวนแห่อย่างเอิกเกริกสนุกสานในงานบุญวันออกพรรษา

โดยมี นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าฯพิจิตร และ นายศุภกิจ กัยกิจ นายก อบต.คลองคะเชนทร์ ถือบาตรเดินนำหน้าขบวนแห่ร่วมกับชาวบ้านที่แต่งตัวในชุดไทยสวยสดงดงามแห่ไปรอบๆ หมู่บ้านเพื่อเชิญชวนชาวบ้านให้ร่วมกันทำบุญ โดยชาวบ้านต่างทำข้าวต้มมัดมาตักบาตรรวมถึงบริจาคทรัพย์เพื่องานบุญในครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ในขบวนแห่ยังมี พระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อเพชร ให้ชาวบ้านได้กราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมทีเป็นไฮไลท์ของงานคือกลุ่มแม่บ้านจาก 10 หมู่บ้านของตำบลคลองคะเชนทร์ ต่างรวมตัวกันมาทำข้าวต้มมัดประกวดประขันกันในรูปแบบข้าวต้มมัดโบราณและข้าวต้มมัดแบบความคิดสร้างสรรค์เพื่อประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยและมีสีสันน่ารับประทาน อีกทั้งมีการแสดงแต่งกายเป็น กัณหาชาลี และชูชกร่วมในขบวนแห่สร้างสีสรรในกิจกรรมงานบุญวันออกพรรษา “ขอทานข้าวต้มมัด” ซึ่งเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีหนึ่งเดียวของจังหวัดพิจิตร

สำหรับประเพณีงานบุญวันออกพรรษา “ขอทานข้าวต้ม” ชาวบ้านคลองคะเชนทร์ ถือว่าเป็นประเพณี ที่เหลือเพียงแห่งเดียวของจังหวัดพิจิตร จัดสืบทอดกันมาช้านานหลายชั่วอายุคน โดยจะจัดในวันขึ้น 14 -15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ในช่วงเทศกาลออกพรรษา ดังกล่าว