กาฬสินธุ์ – เฝ้าระวังระดับน้ำพายุโนรูเติมน้ำ 6 อ่างล้นยันยังไม่วิกฤติ

รองผู้ว่าฯกาฬสินธุ์นำทุกหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบเฝ้าระวังระดับน้ำ หลังหลายพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุโนรู และมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 6 แห่งปริมาณน้ำเกินความจุ ยืนยันยังไม่วิกฤติ เนื่องจากยังสามารถระบายน้ำลงสู่ลำน้ำปาวได้ ส่วนระดับน้ำชียังมีระดับต่ำกว่าตลิ่ง พร้อมตรวจสอบความเข้มแข็งของพนังกั้นน้ำแข็งแรงทุกจุด หลังแก้ปัญหาท่อผีได้เบ็ดเสร็จ กำชับทุกภาคส่วนรับสถานการณ์จากพายุโนรูขั้นสูงสุด


เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทุกภาคส่วนใน จ.กาฬสินธุ์ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังหลายพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุโนรู ที่มีฝนตกติดต่อกันมานานกว่า 2 วันแล้ว ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 อ่างของ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดพบว่ามี 6 แห่ง ที่มีปริมาณน้ำเกินความจุระดับกักเก็บ 100 เปอร์เซ็นต์ และเริ่มล้น แต่ยังคงยังไม่วิกฤติ เนื่องจากยังสามารถระบายน้ำได้


ล่าสุดนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายธนทร ศรีนาค หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ นายสุนทร เจริญพันธ์ นายกเทศมนตรีตำบลห้วยโพธิ์ เจ้าหน้าหน้าที่โครงการชลประทานกาฬสินธุ์ ผู้นำชุมชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบระดับน้ำติดตามความพร้อมรับมือพายุโนรูที่เข้าสู่ จ.กาฬสินธุ์

โดยลงพื้นที่ตรวจสอบอ่างเก็บขนาดกลางที่อ่างเก็บน้ำห้วยโพธิ์ ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 อ่าง จากทั้งหมด 17 อ่างขนาดกลาง ที่มีปริมาณน้ำเกินระดับกักเก็บมากกว่า 100 % โดยขณะนี้อ่างห้วยโพธิ์มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 105 % หรือประมาณ 2.5 ล้าน ลบ.ม.จากความจุกักเก็บ 2.4 ล้าน ลบ.ม. อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้พร่องน้ำลงสู่ลำน้ำปาววันละ 3.8 แสน ลบ.ม. และจากการติดตามสถานการณ์ยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตร และยังมีความแข็งแรงทนทานรองรับปริมาณน้ำที่จะเข้ามาเพิ่มได้อีก


ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเกินความจุมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์อีก 5 แห่ง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำห้วยสังเคียบ อ่างเก็บน้ำห้วยจาน อ่างเก็บน้ำหนองหญ้าปล้อง อ่างเก็บน้ำหนองหมาจอก และอ่างเก็บน้ำหนองบ้านสา ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ เนื่องจากยังมีความมั่นคงแข็งแรงและยังสามารถพร่องน้ำลงสู่แม่น้ำธรรมชาติได้ และยังไม่มีผลกระทบกับพื้นที่การเกษตร รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน


นอกจากนี้นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายธนทร ศรีนาค หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้ลงพื้นที่ติดตามระดับน้ำที่ลำน้ำชี บ้านโนนแดง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ โดยจากการตรวจสอบพบว่าระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นจุดโค้งของกระแสน้ำ ทำให้เกิดการกัดเซาะถนน ชาวบ้านได้ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นกันนำไม้ยูคาลิปตัส มาเป็นเสาหลักก่อนจะขึงสแลม เพื่อลดความแรงของกระแสน้ำที่เข้ากัดเซาะตลิ่งได้ ระหว่างจะมีการซ่อมแซมตลิ่งอย่างถาวร นอกจากนี้ทางอำเภอและท้องถิ่นได้มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำจากบ้านเรือนประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ติดตาม ตรวจสอบเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และดูแลประชาชนให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดหากมีสถานการณ์อุกทกภัย สามารถย้ายไปยังจุดพักพิงได้ทันที