จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเทศบาลตำบลกมลาไสย ร่วมกับอบจ.กาฬสินธุ์ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เตรียมพร้อมจัดแข่งขันเรือยาวประเพณีประจำปี ศึกสายน้ำเจ้าความเร็วแห่งแม่น้ำลำปาว ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และถ้วยเกียรติยศยศผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังมีโรคโควิด-19 เว้นจัดงานไป 2 ปี คาดมีนักท่องเที่ยวและประชาชนร่วมงานนับหมื่นคน

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565 ที่ห้องประชุมพระราษฎรบริหาร เทศบาลตำบลกมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ นางสาววิจิตรา ภูโคก นายก ทต.กมลาไสย นายสมบัติ ชัยรัตน์ ประชาสัมพันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นายนพดล ร้อยพวง ปลัดอำเภอกมลาไสย พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.กมลาไสย ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี จ.กาฬสินธุ์ ประจำปี 2565 โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งใน อ.กมลาไสย ผู้นำชุมชน คณะกรรมการจัดงาน และสื่อมวลชนเข้าร่วมแถลงข่าว

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่ อ.กมลาไสยตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำปาว วิถีชีวิตของชาวบ้านจึงผูกพันอยู่กับสายน้ำและพายเรือ จึงเกิดมีการจัดงานบุญแข่งเรือหรือประเพณีแข่งเรือ ตามที่ชาวบ้านเรียกว่าส่วงเรือ ดังคำขวัญประจำอำเภอที่ว่า “ประเพณีแข่งเรือยาว อู่ข้าวเหลืองสิบเอ็ด ถิ่นเกษตรอุตสาหกรรม วัฒนธรรมเส็งกลองกิ่ง ใบเสมางามยิ่งเมืองฟ้าแดดสูงยาง” ที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของชาว อ.กมลาไสย ถือเป็นมรดกที่ล้ำค่า และภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง โดยมีการสืบทอดจากบรรพบุรุษมาสู่ลูกหลานมาช้านานเกือบร้อยปี

นายศุภศิษย์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเทศบาลตำบลกมลาไสย ได้มีการจัดแข่งขันเรือยาวประเพณี เป็นประจำทุกปี ถือว่าเป็นงานบุญแข่งเรือประเพณีประจำ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แต่เนื่องจากตั้งแต่ปี 2563 เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงได้ว่างเว้นการจัดงานไป 2 ปี ก่อนที่จะกำหนดจัดแข่งขันเรือยาวประเพณีอีกครั้งในระหว่างวันที่ 22-25 กันยายน 2565 ที่บริเวณสะพานข้ามลำน้ำปาว ก่อนเข้าสู่ตัว อ.กมลาไสย

ด้านนางสาววิจิตรา ภูโคก นายก ทต.กมลาไสย กล่าวว่า ในส่วนของการเตรียมความพร้อมจัดงาน ทาง ทต.กมลาไสย ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน อ.กมลาไสย ส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน โดยมีความพร้อมในการจัดการแข่งขันเรือยาวทุกด้าน เช่น สนามแข่งเรือ มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมลำน้ำปาวทั้งสองฝั่ง ฝ่ายรักษาความปลอดภัยตลอดการจัดงาน ทั้งทางการจราจรทางน้ำ ทางบก มีการตรวจเช็คระดับน้ำในบริเวณลำน้ำปาวที่ใช้แข่งขัน ความลึกประมาณ 6 เมตร ระยะทางจากจุดเริ่มต้นถึงเส้นชัยประมาณ 400-500 เมตร จึงมั่นใจในความปลอดภัย ผู้ชมสามารถรับชมการแข่งขันทั้งสองฝั่งได้ใกล้ชิด ภายใต้บรรยากาศสนุกสนานเพลิดเพลิน

นาวสาววิจิตรากล่าวอีกว่า ในส่วนการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันเรือยาวประเภทต่างๆ พร้อมถ้วยรางวัลและเงินรางวัลนั้น คณะกรรมการจัดแข่งขันได้เชิญเรือแต่ละประเภท จากทุกภูมิภาคเข้าร่วมการแข่งขันหลายประเภท เช่น ประเภทเรือยาวใหญ่ไม่เกิน 55 ฝีพาย, ประเภทเรือยาวกลางทั่วไปไม่เกิน 40 ฝีพาย, ประเภทเรือยาวกลางท้องถิ่นไม่เกิน 40 ฝีพาย และประเภทเรือยาวเล็กทั่วไปไม่เกิน 40 ฝีพาย โดยมีเรือแต่ละประเภทจากทั่วประเทศตอบรับเข้าแข่งขัน และได้ทำการจับฉลากแบ่งสายเรือ เพื่อทำการแข่งขันเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การจัดแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานที่จะจัดขึ้นดังกล่าว นอกจากจะเป็นส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรมภูมิปัญญา คือการตีกลองเรือส่วงกับพังฮาด ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีประจำเรือส่วงของบรรพบุรุษชาว อ.กมลาไสย ซึ่งทำให้เกิดความสนุกสนานรื่นเริงใจแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยจะมีฝีพายและนักแข่งเรือมืออาชีพจากทุกภูมิภาค นำเรือเข้าทำการแข่งขัน รวมทั้งยังจะมีกองเชียร์และนักท่องเที่ยวมาร่วมในงานอีกด้วย

นางเฉลิมขวัญกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อการมีส่วนร่วมและสนับสนุนในการจัดประเพณีบุญแข่งเรือ จ.กาฬสินธุ์ ประจำปี 2565 ซึ่งถือว่าเป็นงานประเพณีบุญแข่งเรือของ จ.กาฬสินธุ์ ทาง อบจ.กาฬสินธุ์ โดยสภา อบจ.ได้อนุมัติงบประมาณสนับสนุน สมทบกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งใน อ.กมลาไสย ทั้งนี้ เพื่อร่วมด้วยช่วยกันให้การจัดงานยิ่งใหญ่และบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการจัดงาน จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางมาร่วมงานประเพณีบุญแข่งเรือยาวประเพณี ระหว่างวันที่ 22-25 กันยายน 2565 โดยพร้อมเพรียงกัน