ยุติธรรมเลย เร่งเยียวยา ครอบครัวตา-ยาย-หลาน 4 ชีวิต ถูกกระบะซิ่งชนดับ

ยุติธรรมเลย เร่งเยียวยา ครอบครัวตา-ยาย-หลาน 4 ชีวิต ถูกกระบะซิ่งชนดับ

 

เมื่อวันที่ 2 ก.ย.65 พ.ต.ต.เดี่ยว คำแหงพล สว.(สอบสวน) สภ.ผาขาว จ.เลย ได้รับแจ้งมีเหตุรถกระบะชน จยย. มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ก่อนถึง รพ.ผาขาว 400 เมตร ต.โนนปอแดง อ.ผาขาว เมื่อรับแจ้งประสานไปยังแพทย์ รพ.ผาขาว มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ จัดผาขาว เลยเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบรถกระบะนิสสันนาวาร่า สีดำ ทะเบียน ผม 5579 ขอนแก่น ชนกับรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีดำขาว ทะเบียน กนษ 701 หนองบัวลำภู และเสียหลักชนกำแพงวัดเทพศิรินทร์พัฒนา จนสภาพหน้ารถกระบะพังยับเยิน ห่างออกไปที่กำแพงวัดพบผู้เสียชีวิต 4 ราย ชื่อนายแก้ว บุผาโต 57 ปี (ตา) นางบุญกอง บุผาโต 53 ปี (ยาย) เด็กหญิงสุจิตตา แร่ป้อง อายุ 3 ขวบ (หลาน) เด็กชายฤทธิ์ชัย อายุ 11 เดือน (หลาน) ทั้งหมดอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 1 ต.ท่าช้างคล้อง อ.ผาขาว จ.เลย กู้ภัยนำร่างส่งชันสูตรพลิกศพที่ รพ.ผาขาว ห่างออกไปพบนายศตพล นิลทรักษ์ อายุ 29 ปี ครูพละ โรงเรียนโนนปอแดง อยู่บ้านเลขที่ 5/1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร ได้รับบาดเจ็บสาหัส กู้ภัยฯ นำส่ง รพ.ผาขาว

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.ย.65 ณ สนง.ยุติธรรมจังหวัดเลย ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย จ.เลย นายสมบูรณ์ สุริยะ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ยุติธรรมจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ตามรายงานข่าวกระบวนการยุติธรรม/ ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเลย ขอรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือประชาชนภายใต้แนวคิด “ยุติธรรมสร้างสุข ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน” จากกรณีที่มีการเสนอข่าว “กระบะซิ่งข้ามเลนพุ่งชนรถจักรยานยนต์ตา-ยาย-หลาน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ศพ” ที่เกิดเหตุ ถนนสายบ้านพรสวรรค์ – ท่าช้างคล้อง บริเวณหน้าวัดเทพศิรินทร์พัฒนาราม ตำบลโนนปอแดง อำเภอผาขาว จังหวัดเลย เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565

พร้อมบันทึกแจ้งสิทธิผู้เสียหายกรณีเชิงรุก 1.ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2559 ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างเคร่งครัดผ่านช่องทางโทรศัพท์ ได้ข้อเท็จจริง คือ พฤติการณ์ของคดี ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565 เวลากลางวัน นายแก้วฯ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮออนด้า เวฟ โดยมีนางบุญกอง (ภรรยา) เด็กหญิงสุจิตตาฯและเด็กชายฤทธิ์ชัยฯ (บุตรหลาน) เป็นผู้โดยสารเดินทางเพื่อไปซื้อของ

พอมาแล่นมาถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะถนนเป็นทางตรงมีสองช่องทางเดินรถสวนกัน ระหว่างนั้นได้มีรถยนต์ ยี่ห้อ นิสสัน มีนายศตพลฯ (ผู้ต้องหา) เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาสุรา แล่นมาจากช่องทางเดินรถฝั่งตรงข้ามมาด้วยความเร็วได้เสียหลัก ทำให้รถยนต์ของผู้ต้องหาพุ่งล้ำช่องทางเดินทางไปฝั่งของรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายเป็นผู้ขับขี่ เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนจนถึงแก่ความตาย 2. ข้อมูลผู้เสียหาย : นายแก้วฯ ขอสงวนนามสกุล อายุ 57 ปี นางบุญกอง ขอสงวนนามสกุล อายุ 53 ปี เด็กหญิงสุจิตตา ขอสงวนนามสกุล อายุ 3 ปี และเด็กชายฤทธิ์ชัย ขอสงวนนามสกุล อายุ 11 เดือน (ผู้ตาย) 3. การวิเคราะห์ข้อมูล ผลกระทบความเสียหายด้านสังคม เศรษฐกิจ กรณีเหตุการณ์ดังกล่าว

เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเลย ได้ประสานขอข้อมูลจาก พันตำรวจตรี เดี่ยว คำแหงพล สว.(สอบสวน) สภ.ผาขาว จ.เลย หมายเลขโทรศัพท์ 083-335-6994 เพื่อขอทราบถึงพฤติการณ์แห่งคดีและความคืบหน้าทางคดี ทราบว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา ทราบว่าเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวเกิดจากความประมาทของผู้ขับรถยนต์ ซึ่งขับรถยนต์ในขณะมึนเมาสุราจนเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย และรถทั้งสองคันจัดทำประกันภัยภาคบังคับ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเลย จึงขอความอนุเคราะห์ให้พันตำรวจตรี เดี่ยว คำแหงพล แจ้งสิทธิและอธิบายถึงหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ และให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นๆ ให้กับทายาทของผู้ตายที่เกี่ยวข้องทราบ

หากผู้เสียหายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และไม่ได้รับการบรรเทาความเสียหายโดยทางอื่น ผู้เสียหายมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรา 3 มาตรา 18 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ กรณีความผิดต่อชีวิต ได้แก่ (1) ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตายให้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท (2) ค่าจัดการศพ 20,000 บาท (3) ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดูให้จ่ายไม่เกิน 40,000 บาท ทั้งนี้ การพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา เป็นดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ เป็นสำคัญ

นายสมบูรณ์ สุริยะ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการพิเศษ กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายมีสิทธิรบความเสียหายเยียวยามตาม พ.ร.บ.บัญญัติไว้ ได้รับสิทธิ 2 สิทธิกับการประกันภัย กล่าวคือ ให้ผู้เสียหายญาติรีบมายื่นเรื่องขอรับสิทธิ ตาม พ.ร.บ.ก่อน ในวันที่ 5 ก.ย.65 นี้ รายละประมาณ 90,000 บาท ขอเพียง พงส.ลงบันทึกประจำวันวันว่า”คู่กรณีหรือรถกระบะเป็นฝ่ายผิด” ก็มายื่นขอรับสิทธิได้ ไม่ต้องรอผลการสอบสวนเพราะต้องใช้ระยะเวลานาน

ส่วน พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถจากบริษัทประกันภัยนั้นจะได้รับอีกรายละ 500,000 บาท ส่วนการประกันภัยจากรถก็สามารถยื่นได้ภายหลัง จากการสอบถามทายาทของผู้ตายยินยอมให้นำเสนอข่าวการให้ความช่วยเหลือฯ ทั้งนี้ ได้รายงานผลการให้ความช่วยเหลือต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกับได้สอบถามผู้เสียหายแล้ว แจ้งว่าไม่ยินยอมให้กระทรวงยุติธรรมนำเสนอข่าวโดยเปิดเผยชื่อ-สกุล

บุญชู ศรีไตรภพ จ.เลย