“ปลัดฯ จตุพร” เคาะงบกองทุนสิ่งแวดล้อม ปี 2566 พร้อมตั้งอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

“ปลัดฯ จตุพร” เคาะงบกองทุนสิ่งแวดล้อม ปี 2566 พร้อมตั้งอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

 


วันนี้ (26 สิงหาคม 2565) เวลา 13.30 น. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3/2565 ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม ชั้น 17 อาคารกระทรวงฯ และผ่านระบบ Video Conference โดยมี นายมนต์สังข์ ภู่ศิริวัฒน์ รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นฝ่ายเลขานุการฯ โดยได้เน้นย้ำ ให้ทุกโครงการที่ขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ ต้องตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน


ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ ร่าง ประกาศคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคำขอรับเงินช่วยเหลือและอุดหนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 23(4) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ 2) พ.ศ…. อีกทั้งเห็นชอบแผนการบริหารกองทุนสิ่งแวดล้อม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2570 ตามเกณฑ์การประเมินทุนหมุนเวียน เพื่อให้กองทุนสิ่งแวดล้อมมีกรอบทิศทางในการบริหารและขับเคลื่อนการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่ชัดเจน ตลอดจนเห็นชอบ ร่าง ตัวชี้วัดการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน (กองทุนสิ่งแวดล้อม) ประจำปีบัญชี 2566 และการอนุมัติจัดสรรเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานกองทุนสิ่งแวดล้อม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ( 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566) ภายใต้แผนปฏิบัติการระยาวกองทุนสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2566 – 2570 และแผนปฏิบัติงานกองทุนสิ่งแวดล้อม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566


นอกจากนี้ ยังได้มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมี เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานอนุกรรมการฯ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมเป็นอนุกรรมการ เพื่อทำหน้าที่พิจารณาความเหมาะสมด้านเทคนิควิชาการ การเงิน การมีส่วนร่วม และความเป็นไปได้ของโครงการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม ในการพิจารณาให้การสนับสนุนงบประมาณต่อไป