กาฬสินธุ์ เอกซเรย์ผู้สูงอายุรับเบี้ยผู้พิการเพิ่มรายเดือน 2 เด้ง

ประธานมูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการระดับภาค และคณะ ลงพื้นที่สำรวจผู้สูงอายุ ที่มีสภาพร่างกายพิการทั่งจังหวัด เพื่อให้เข้าถึงสิทธิ์ที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมาย และรับสิทธิ์เบี้ยสวัสดิการผู้พิการรายเดือนเป็น 2 ต่อ เพิ่มจากเบี้ยสวัสดิการผู้สูงอายุ เผยสำรวจพบและขึ้นทะเบียนแล้ว 55 ราย พร้อมส่งต่อเข้ารับสิทธิตามมาตรา 35 เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต และรับสิทธิ์เงินสนับสนุนอาชีพอีกรายละ 114,245 บาท

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่ ต.สำราญใต้ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ นางสาวพิชชานันท์ ภูแป้ง ประธานมูลนิธิปัญพัฒน์ เพื่อคนพิการระดับภาค (อีสาน) และผู้จัดการภาคองค์กรเวิร์คเอเปิล ออแกไนเซชั่น (WO) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพร่างกายเบื้องต้นผู้สูงอายุ ที่สภาพร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และเป็นภาระบุตรหลาน ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการด้วยจิตอาสา ผ่านเครือข่ายผู้ปกครองและผู้ดูแลคนพิการในแต่ละชุมชน เพื่อนำไปสู่การให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคราชการและภาคประชาสังคมต่อไป


นางสาวพิชชานันท์กล่าวว่า ภายหลังจากนางสาวชนัญชิดา ลิ้มนนทกุล ประธานมูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ พร้อมด้วยนายปรีดา ลิ้มนนทกุล เลขาธิการมูลนิธิฯ ดร.อัครนันท์ อริยศรีพงษ์ ที่ปรึกษามูลนิธิฯ และนายภิญโญ รู้ธรรม ประธานชมรมจิตอาสาเปลี่ยนอนาคต ได้เดินทางมาจัดประชุมสมาชิกมูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ และสมาชิกองค์กรดับบลิวโอ (WO) ที่ห้องประชุมทศพร โรงแรมริมปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา และวันต่อมาได้ลงพื้นที่ออกเยี่ยม พร้อมติดตามผลการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการตามชุมชนต่างๆ ที่เป็นสมาชิกของมูลนิธิปัญพัฒน์ฯ และสมาชิกองค์กรดับบลิวโอ โดยเฉพาะผลสัมฤทธิ์จากสิทธิประโยชน์หลายอย่าง ที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกฯ ทั้งการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับผู้ดูแลคนพิการ ได้มีอาชีพ มีรายได้ ควบคู่กับการดูแลผู้พิการ ถึงแม้ว่าผู้ดูแลคนพิการ จะมีภาระที่ต้องดูแลคนพิการในครอบครัว ทำให้เสียโอกาสไปทำงานหรือประกอบอาชีพนอกบ้าน แต่ก็สามารถที่จะมีงานทำ และมีรายได้จุนเจือครอบครัวในขณะเดียวกัน


นางสาวพิชชานันท์กล่าวอีกว่า ในการลงพื้นที่ออกเยี่ยม พร้อมติดตามผลการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการครั้งนั้น ยังได้มีการเชิญชวนกลุ่มเป้าหมาย คือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ดูแลคนพิการ ได้ทราบว่ายังจะมีสิทธิ์ประโยชน์อื่นๆ ที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมายหลายอย่าง เป็นการให้ความรู้เพิ่มเติม เช่น นอกจากผู้สูงอายุ จะได้รับเบี้ยสวัสดิการจากรัฐรายเดือนแล้ว หากผู้สูงอายุรายนั้นเป็นผู้พิการ เช่น พิการทางการได้ยิน พิการทางสายตา แขนขาอ่อนแรง หรือเป็นผู้ป่วยติดเตียง ก็ยังจะสามารถได้รับเบี้ยสวัสดิการผู้พิการอีก 1 ประเภท คือได้รับเบี้ยสวัสดิการรายเดือน 2 ต่อ ทั้งประเภทผู้สูงอายุและผู้พิการอีกด้วย


“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ผู้สูงอายุหรือผู้ดูแลคนพิการ รวมถึงผู้ดูแลคนพิการทั่วไปยังเข้าไม่ถึงเรื่องนี้ จึงทำให้เสียสิทธิไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตาม ตามที่มูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ และองค์กรดับบลิวโอ (WO) มีบทบาทหน้าที่ในการดูแลผู้พิการ รวมถึงผู้ดูแลคนพิการ และทำงานด้วยจิตอาสา ได้ตระหนักในความสำคัญของบุคคลกลุ่มนี้ ตามศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมของความเป็นมนุษย์ เพื่อที่จะได้มีสิทธ์ที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมาย จึงได้ลงพื้นที่สำรวจผู้สูงอายุ ที่เข้าข่ายเป็นบุคคลพิการ มีเป้าหมายทั่วจังหวัด ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 ซึ่งหมายถึงการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับผู้ดูแลคนพิการ

โดยผู้พิการหรือผู้ดูแลคนพิการ ที่มีบัตรคนพิการที่ทางราชการออกให้ สามารถสมัครเป็นสมาชิก และยื่นความประสงค์ขอรับการสนับสนุนด้านอาชีพได้ โดยทางมูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ และองค์กรดับบลิวโอ (WO) จะดำเนินการประสานหรือตัวกลางให้ได้เข้าถึงสิทธิที่ทางสถานประกอบการเป็นฝ่ายจัดให้มาตามกฎหมายบังคับ หรือพิจารณาอนุมัติตามความเหมาะสม ในวงเงินรายละ 114,245 บาท ทั้งนี้ เป็นเงินทุนตั้งต้นสร้างอาชีพให้กับผู้ดูแลผู้พิการแบบให้เปล่า และหักค่าดำเนินการใดๆ และไม่มีการเก็บคืน ทั้งนี้ ในปี 2564 มีสมัครเข้ามาสมาชิก 24 ราย และล่าสุดปี 2565 จำนวน 31 ราย รวม 55 ราย” นางสาวพิชชานันท์กล่าว


ด้านนายประเวช แก้วโสม อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 7 ต.สำราญใต้ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า แม่ของตนคือนางมุข แก้วโสม อายุ 100 ปี สภาพร่างกายเข่าเสื่อม พอทราบว่ามีเจ้าหน้าที่มูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการฯ เข้ามาสำรวจสภาพร่างกายเบื้องต้นผู้สูงอายุ พร้อมบริการนำส่งตรวจสุขสภาพที่โรงพยาบาล เพื่อขอรับบัตรคนพิการ หรือสิทธิที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมาย ทั้งนี้ ตนและครอบครัวขอขอบคุณ ที่ทางมูลนิธิปัญพัฒน์เข้ามาสำรวจและดูแลด้วยจิตอาสา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ผู้พิการ ตลอดจนผู้ดูแลคนพิการให้ดีกว่าที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จะบอกต่อเพื่อนบ้าน และเชิญชวนผู้สูงอายุ ผู้ดูแลคนพิการมาสมัครเป็นสมาชิก เพื่อให้เข้าถึงสิทธิดังกล่าว