สระบุรี/แจ้งเตือนประชานเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

สระบุรี/แจ้งเตือนประชานเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

วันที่ 15 ส.ค.65 ตามที่ หนังสือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำป่าสักชลสิทธิ์ มีหนังสือว่าด้วยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำปาสักชลสิทธิ์ แจ้งว่าเนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่เหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำ และปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ จะเพิ่มการระบายน้ำโดยทยอยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จากอัตรา 120 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ในวันที่ 11 สิงหาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

จนถึงอัตรา 160 ลูกบาศก์เมตร/วินาที รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จังหวัดสระบุรีพิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อทรัพย์สินของประชาชนจากการเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 0.70 – 0.80 เมตร โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นยังอยู่ในลำน้ำ ไม่เกิดสภาวะน้ำลันตลิ่งแม่น้ำป่าสัก


จึงขอให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำป่าสัก อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่ง แม่น้ำป่าสักขอให้เฝ้าระวังติดตามสถนการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และคอยรับฟังข่าวสารทางราชการอย่างต่อเนื่อง


ทางด้าน นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักอยู่ในภาวะปกติ เนื่องจากน้ำในเขื่อนมีอยู่ประมาณ 46 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นไปตามการดำเนินการการกักเก็บน้ำ ที่สำคัญคือการระบายน้ำต่างๆที่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็จะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า อย่างสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีการระบายน้ำเพิ่ม เป็น 120 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งในปัจจุบันทางเขื่อนได้ระบายอยู่ที่ 160 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพื่อเป็นการปรับให้เข้าเกณท์กักเก็บน้ำ ซึ่งจะยังไม่มีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และที่สำคัญน้ำท้ายเขื่อน จะมีผลกระทบก็ต่อเมื่อมีการระบายเกิน 600 ซึ่งในปัจจุบันมีการระบายเพียง 160 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งการแจ้งเตือนจะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 3 วัน ซึ่งระยะทางจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มายังเขื่อนพระรามหก จะอยู่ที่ประมาณ 100 กม.

ซึ่งน้ำจะใช้ระยะเวลาในหารเดินทางประมาณ 1 วันครึ่ง จากเขื่อนพระรามหก ไปที่แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นระยะทาง 40 กม.การระบายน้ำใช้ระยะเดินทางถึงแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเวลา 1วัน ซึ่งจะต้อมมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเป็นเวลา 3 วัน นายทวีศักดิ์ กล่าวเสริมว่า สิ่งสำคัญ เราได้ผ่านมรสุมมา 2 ลูกแล้วตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม จนมาถึงวันที่ 10 สิงหาคม สิ่งที่สำคัญต้องดูที่พายุต่างๆที่กรมอุตุนิยมจะประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้า อย่าไรก็ตามการบริหารจัดการน้ำที่กรมชลประทานจะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า


เสียง..นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน /ดำรงค์ ชื่นจินดา รายงาน