กาฬสินธุ์องคมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำชี-เขื่อนลำปาวกาฬสินธุ์
องคมนตรีลงพื้นตรวจติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำชี และสถานการณ์น้ำเขื่อนลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังหลายพื้นที่กำลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 6 กรกฎาคม 2565 นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ในฐานะรองประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำชี โดยประชุมติดตามสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว โดยมีนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.อ.สุรชัย การปลูก ตัวแทนกอ.รมน.กาฬสินธุ์ นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 6 นายสำรวย อินพิทักษ์ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว นายสุรพล สวนจันทร์ ผอ.โครงการชลประทานกาฬสินธุ์ นายพงษ์ศักดิ์ ชินคีรี เกษตร จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์ และให้การต้อนรับ
ทั้งนี้นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ โดยเฉพาะแผนการระบายน้ำในปีนี้ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนตลอดช่วงฤดูฝนนี้ได้ และมีปริมาณน้ำสำรองเพียงพอ หลังจากพบว่าหลายพื้นที่กำลังประสบปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วงมานานหลายสัปดาห์ ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนหลักหลายจังหวัดน้อยกว่าเกณฑ์เฉลี่ย โดยเฉพาะในช่วงมิถุนายนที่ผ่านมา นอกจากนี้จากการรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์อีกว่าในช่วงเดือนกรกฎาคมยังมีแนวโน้มฝนทิ้งช่วงและฝนตกน้อยยาวไปจนถึงสิ้นเดือน จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งการการเตรียมความพร้อมในช่วงฤดูที่เกิดพายุฝนที่คาดการณ์ว่าฝนจะตกมากขึ้นในเดือนสิงหาคม-กันยายนอีกด้วย
สำหรับ จ.กาฬสินธุ์ เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในลุ่มน้ำชี โดยมีพื้นที่ที่อยู่ในเขตลุ่มน้ำชีได้แก่ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอกมลาไสย อำเภอยางตลาด และอำเภอฆ้องชัย มีแหล่งน้ำสำคัญที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ คือ เขื่อนลำปาว ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 721 ล้าน ลบ.ม.จากความจุกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 36 ซึ่งมีปริมาณน้ำมากกว่าปี 2564 เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเดียวกัน โดยในปี 2564 มีปริมาณอยู่ที่ 678.90 ล้าน ลบ.ม. และขณะนี้เขื่อนลำปาวกำลังส่งน้ำลงสู่ลำน้ำปาว แม่น้ำชี และคลองส่งน้ำของชลประทานเขื่อนลำปาว เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรท้ายน้ำที่กำลังอยู่ในภาวะฝนทิ้งช่วง รักษาระบบนิเวศน์ และเพื่อการอุปโภค บริโภค เฉลี่ยวันละ 4.5 ล้าน ลบ.ม.
นอกจากนี้ จ.กาฬสินธุ์ ยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาอีก 17 แห่ง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวม 42.43 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 48 ซึ่งมีปริมาณน้ำน้อยกว่าปี 2564 โดยมีปริมาณน้ำ 44.75 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 50.63 ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่มีอยู่จำนวน 263 แห่ง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวม 38 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 64 น้อยกว่าปี 2564 ที่มีปริมาณน้ำอยู่ 39.58 คิดเป็นร้อยละ 66.40 ซึ่งสถานการณ์น้ำของ จ.กาฬสินธุ์ในปีนี้ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และยังเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค แต่หากมีฝนตกเพิ่มลงมาก็จะทำให้มีน้ำในอ่างเก็บน้ำมากขึ้น