กาฬสินธุ์ ฝนทิ้งช่วงชาวลำคลองรำบวงสรวงบุญบั้งไฟขอฝนเติมน้ำเข้าเขื่อนลำปาว

ชาวตำบลลำคลอง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดกิจกรรมสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟขอฝนจัดขบวนนางรำบวงสรวงพญาแถนดลบันดาลฝนตกลงมาน้ำเติมเข้าเขื่อนลำปาว แหล่งน้ำหลัก เพื่อการเกษตร และเพื่อการอุปโภคบริโภค ของจังหวัดกาฬสินธุ์และหลายจังหวัดในภาคอีสาน ขณะที่ชาวตำบลเหนือร่วมกันจัดงานบุญเดือนหกหรือบุญบั้งไฟขอฝนสืบสานประเพณีอีสาน

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดกิจกรรมประเพณีบุญต่างๆของหน่วยงานและประชาชนใน จ.กาฬสินธุ์ยังคงมีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์โรคโควิด-19 ดีขึ้น ล่าสุดที่สนามโรงเรียนสะอาดประชาสรรพ์ ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ติดกับสันเขื่อนลำปาว นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม นายสถาพร ฉายประดิษฐ์ นายกเทศมนตรีตำบลลำคลอง นายณัฐวัชต์ พิมพะนิตย์ สจ.เขต 4 อ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และประชาชน นำนางรำที่ประกอบด้วยกลุ่มสตรีแม่บ้าน เยาวชน นักเรียน จาก 9 หมู่บ้านใน ต.ลำคลอง กว่า 1,000 คน จัดริ้วขบวนแห่บั้งไฟ และรำบวงสรวงสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟขอฝนพญาแถนดลบันดาลฝนตกลงมาน้ำเติมเข้าเขื่อนลำปาว โดยบรรยากาศเต็มไปด้วย สีสัน และความสนุกสนาน


นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม กล่าวว่า ในช่วงเริ่มต้นฤดูฝนหรือช่วงบุญเดือน 6 หลายพื้นที่ทางภาคอีสานจะมีการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ซึ่งถือว่าเป็นงานประจำปีที่ชาวบ้านทุกกลุ่มวัย ได้มีส่วนร่วมในการสืบสานประเพณีอันดีงาม และเป็น 1 ในฮีต 12 คอง 14 ของชาวอีสาน ทั้งนี้เพื่อบูชาพญาแถน ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นเทวดาแห่งฝน โดยจะมีการจัดขบวนแห่บั้งไฟและนางรำ เพื่อร่วมกันรำบวงสรวง และจะมีการจุดบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อเป็นการบอกกล่าวและเป็นสัญญาณให้พญาแถนทราบว่าถึงฤดูฝนแล้ว จึงขอให้พญาแถนบันดาลฝนตกลงมา หล่อเลี้ยงพืชพันธุ์ธัญญาหารให้มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นประเพณีอันดีงานที่จะต้องมีการรักษาให้คงไว้ถึงลูกหลาน เพราะนอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงานแล้ว ยังสร้างความรัก ความสามัคคี และสร้างรายได้ รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนอีกด้วย


ด้านนายสถาพร ฉายประดิษฐ์ นายกเทศมนตรีตำบลลำคลอง กล่าวว่า เทศบาลตำบลลำคลองว่างเว้นการจัดงานบุญบั้งไฟมา 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ผ่อนคลาย ลดระดับ เตรียมเปลี่ยนผ่านเข้าสู่เป็นโรคประจำถิ่น เทศบาลตำบลลำคลองจึงได้ร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล สถานศึกษา และประชาชนชาวตำบลลำคลอง 9 หมู่บ้าน จัดงานบุญบั้งไฟขึ้น เพื่อส่งเสริมและสืบสานประเพณีวัฒนธรรม อันดีงามของท้องถิ่น ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรม เพื่อสร้างความสัมพันธ์สามัคคี และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับ เกษตรกรในการทำการเกษตรซึ่งเป็นอาชีพหลักอีกด้วย


สำหรับพื้นที่ ต.ลำคลอง อยู่ติดกับสันเขื่อนลำปาว หรือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ถือเป็นแหล่งน้ำสำคัญในการ เกษตรกรรม เช่น ทำนา เลี้ยงกุ้งก้ามกราม และเพื่อการอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ หากปีใดพื้นที่ข้างเคียงประสบภัยแล้ง เขื่อนลำปาวยัง ได้ระบายน้ำลงแม่น้ำชี เพื่อหล่อเลี้ยงพื้นที่ใต้เขื่อนลำปาวหลายจังหวัด เช่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และยโสธร เพื่อผลิตน้ำประปาและเลี่ยงระบบนิเวศอีกด้วย


อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ที่เป็นต้นฤดูฝน แต่เกิดสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง การจัดงานบุญ บั้งไฟและรำบวงสรวงครั้งนี้ยังเป็นการบอกกล่าวให้พญาแถนบันดาลฝนตกลงมา เพื่อเติมน้ำเข้าเขื่อนลำปาวให้มากๆ เพื่อที่จะมีปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนลำปาว และสำรองใช้ทั้งเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียงได้มีน้ำใช้อย่างเต็มที่ ทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้งอย่างบริบูรณ์ ทั้งนี้ประมาณน้ำเขื่อนลำปาวล่าสุดมีอยู่ 798 ล้าน ลบ.ม.จากความจุ 1,980 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร
นอกจากนี้นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม ยังได้ร่วมกับผู้นำชุมชน และประชาชนชาวตำบลเหนือ อ.เมืองกาฬสินธุ์จัดกิจกรรมประเพณีบุญบั้งไปประจำปี 2565 เพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีวิถีชีวิตชาวอีสานบุญเดือนหก จุดบั้งไฟบูชาพญาแถนขอฝนเช่นกันอีกด้วย

***เสียงสัมภาษณ์***นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม