ความล่าช้าของ”เมืองต้นแบบที่ 4” คือความสูญเสียของประเทศชาติและประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ความล่าช้าของ”เมืองต้นแบบที่ 4” คือความสูญเสียของประเทศชาติและประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

 


1.สถานการณ์ความไม่สงบล่าสุดที่เกิดขึ้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส คือการที่”กองกำลังติดอาวุธ”ของ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน”บีอาร์เอ็น”ใช้ปืนสงคราม และระเบิดไปป์บอมบ์” โจมตีสถานีตำรวจน้ำ แสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ความไม่สงบใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังจะ”ลากยาว” อย่างไม่มีกำหนด และยังส่งผลกระทบต่อความ”ไม่มั่นคง”ของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
2. ทราบข่าวว่า ภายในต้นเดือน มิถุนายน นี้ กลุ่มคนในหลากหลายชื่อ” ที่เป็น”เครื่องมือ”ของ “เอ็นจีโอ”ที่ต่อต้านโครงการเมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ หรือ “นิคมอุตสาหกรรมจะนะ”จะเคลื่อนพลไปยัง กทม.อีกครั้งเพื่อจัดกิจกรรมเกี่ยว “ทะเล” และ,อาหาร” เพื่อ”เชื่อมโยง”กับกิจกรรมต่อต้าน โครงการ”เมืองต้นแบบที่ 4 “ ซึ่งเป็นโครงการ”เมืองต้นแบบที่ 4 ในการ”ขับเคลื่อน”ของ “สภาพัฒนฯ” ผ่านไปแล้วเป็นปี แต่ยังไม่มีอะไรที่ “ก้าวหน้า”
3. ขณะนี้ หอการค้าจังหวัดสงขลา ซึ่งมีภาคีเครือข่ายถึง 19 องค์กร มีความเห็นที่”สอดคล้องต้องกันว่า” การพัฒนาจังหวัดสงขลา ในหลากหลายรูปแบบ หลายหลายโครงการ เพื่อผลักดันให้ สงขลา เป็นเมืองท่องเที่ยว ธุรกิจการค้า และ อุตสาหกรรม นั้น
สิ่งทีต้องมีคือการลงทุนที่เป็น”เมกโปรเจกต์” และ “เมกโปรเจกต์” ที่เหมาะสม คือโครงการ”เมืองต้นแบบที่ 4 จะนะ” หรือ “นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” หรือ”เมืองต้นแบบแห่งอนาคต” ซึ่งเป็น โครงการการเดียวกัน แต่เรียกกันถึง 3 ขื่อ ซึ่ง หอการค้า จังหวัดสงขลา เห็นว่า เป็นโครงการที่เหมาะสม เพราะเป็น”อุตสาหกรรม” ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และไม่มีเรื่องของ”ปิโตรเคมีเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็น อุตสาหกรรมทันสมัย และมีโครงการ”พลังงาน” ที่ไม่สร้างมลภาวะ


ที่สำคัญคือมี “ท่าเรือน้ำลึก”ที่ทันสมัย เพื่อรองรับกับ”อุตสาหกรรม”ซึ่งต้องการ”โลจิสติกส์” ที่มีความพร้อม และ ท่าเรือน้ำลึก สงขลาที่มีใช้อยู่ขณะนี้ ไม่มีความพร้อมในการ ขนส่งสินค้า ทั้งสินค้าเกษตร ( ยางพารา ) และ อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เติมโตขึ้น และในอนาคต ยิ่งจะมีมากขึ้น
เสียงจาก หอหารค้า จึงเป็นเสียงเรียกร้องที่มีความสำคัญ ที่ รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วางศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( กพต.) ต้องให้ความสำคัญ
และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก็ต้องรับฟัง เพราะถ้าไม่รับฟัง องค์กร ที่เป็นผู้นำของ”เอกชน” ในด้าน ธุรกิจ การค้า การลงทุน และจะไปฟังใครอีก เพราะ หอการค้า และภาคีเครือข่าย คือผู้มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่อง ธุรกิจ การค้า การลงทุน และ อุตสาหกรรม
ไม่ใช่ เอ็นจีโอ ที่ ใช้ข้อมูล”ด้านลบ” และสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น มาขัดขวางต่อต้านการพัฒนาประเทศ โดยต้องการเห็น “ทะเลสวย น้ำใส ต้องการให้ ประชาชนอยู่กับอาชีพเก่า ที่บางอาชีพวันนี้อาจจะกำลัง”ล่มสลาย” และคนในอาชีพเหล่านั้น ก็ต่างดิ้นรน เพื่อไปสู่อาชีพใหม่ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


สภาพัฒน์ฯ ใช้เวลาหลายเดือน ในการฟังความเห็นจากทุกกลุ่มอาชีพ ซึ่งวันนี้ควรจะสรุปได้แล้ว จากความเห็นของ”หอการค้าจังหวัดสงขลา” และ สภาอุตสาหกรรม ของ จ.สงขลา,ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาส ที่ต่างมีความเห็นว่า “เมืองต้นแบบที่ 4 “ของ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความเหมาะสม และมีประโยชน์กับการสร้างเศรษฐกิจ แก้ปัญหา”ว่างงาน” และเป็นการ”ต่อยอด” ให้เกิดการลงทุนติดตามมาอีกมากมายในพื้นที่
วันที่ 8 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( กพต.) จะเดินทางมาพบปะกับนักธุรกิจ นักลงทุน และองค์กรภาคประชาขนในสาขาอาชีพต่างๆ ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจัดโดย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.)ตาม นโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังการคลี่คลายของ โควิด 19
และ นี่คือ โอกาสที่ดีที่สุดที่ องค์กรเอกชน ไม่ว่าจะเป็น กอการค้า สภาอุตสาหกรรม องค์กรธุรกิจท่องเที่ยว และอื่นๆ จะได้ แสดงความคิดเห็น เพื่อ ผลักดัน ให้ เมืองต้นแบบที่ 4 จะนะ หรือ”นิคมอุตสาหกรรมจะนะ”เดินหน้าอย่างรวดเร็ว เพราะความล่าช้าที่เกิดขึ้น ได้ตัดโอกาสการพัฒนาพื้นที่ เศรษฐกิจ สังคม และเป็นการ ทำร้าย ประชาชน ให้ต้อง จมปลัก กับความ ยากจน ว่างงาน ซึ่งหาก ไม่มี โครงการการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โอกาสที่จะทำให้ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการ พัฒนา ไม่สามารถเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา