เพชรบูรณ์- แม่ค้ากล้วยทอด วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ หลังเพิงพักอาศัย ที่เปิดขายของริมทาง ถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง

เพชรบูรณ์- แม่ค้ากล้วยทอด วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ หลังเพิงพักอาศัย ที่เปิดขายของริมทาง ถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง เงินเก็บและเงินทุนก้อนสุดท้ายถูกเผาเกลี้ยง รวมถึงชุดนักเรียน สมุด หนังสือของหลานสาววัย7ขวบ กลายเป็นเศษเถ้าถ่าน

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน ลักษณะเป็นเพิงพักอาศัยและขายกล้วยทอดเลี้ยงชีพ อยู่ริมถนนเส้นวังศาล-วังแช่กลอย ซึ่งเป็นเพิงพักของ น.ส.พเยาว์ ภูมิชาติ อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 51/1 ม.8 ต.วังศาล อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ (ที่อยู่ตามบัตรประชาชน) มีผู้พักอาศัยภายในบ้าน จำนวน 4 คน ได้รับความเสียหายวอดทั้งหลัง ไม่สามารถนำทรัพย์สิน ของมีค่าอะไรออกมาได้เลย แม้กระทั่งเงินเก็บก้อนสุดท้าย 5,000กว่าบาท ที่เก็บไว้ใช้ซื้อข้าวปลาอาหาร ลงทุนขายของ และจะซื้อชุดนักเรียนให้หลานสาววัย7ขวบ ก็ถูกไฟไหม้ไปจนเกลี้ยง ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้เฝ้าบ้านดังกล่าว เนื่องจากออกไปทำงานรับจ้าง ทำให้ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งหลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ ก็ไม่สามารถที่จะหารายได้อะไรเลี้ยงชีพ เพราะเพิงพักที่ใช้อาศัยและเปิดร้านขายกล้วยทอด ก็กลายสภาพเหลือแค่เศษเถ้าถ่าน และตอสีดำ โดย ลูกชายกับสามี จำต้องไปหาทำงานรับจ้างทั่วไป ส่วนหลานสาวก็ต้องไปโรงเรียน โดยเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา เบื้องต้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.วังศาล ได้ให้การช่วยเหลือ นำผู้ประสบภัย จำนวน 4 ชีวิต ไปพักอาศัยชั่วคราว ที่อาคารอเนกประสงค์หมู่บ้าน สำหรับอาหาร น้ำ เสื้อผ้าได้รับช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านในพื้นที่


ล่าสุด นายสุเทพ เบียร์ดี นายอำเภอวังโป่ง พร้อมด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้ลงพื้นที่พบปะ พร้อมให้กำลังใจ ครอบครัวผู้ประสบภัย ซึ่งทราบว่าอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ชีวิต ประกอบด้วย น.ส.พเยาว์ ภูมิชาติ อายุ 58 ปี นายประจวบ สำเพียร อายุ 56 ปี นายขวัญชัย สำเพียร อายุ 22 ปี และ ด.ญ.เพชรตระวรรณ ทตตะพอน อายุ 7 ขวบ โดยครอบครัวนี้ ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง ต้องมาอาศัยอยู่ปลูกเพิงพักและขายกล้วยทอดอยู่ริมทาง กระทั่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ คาดไฟฟ้าลัดวงจร ส่งผลให้ทั้ง4ชีวิต ไร้ที่พักพิง เบื้องต้น มีแนวทางในการเยียวยาต่อจากนี้ โดยต้องหาที่อยู่ให้ผู้ประสบภัย ได้มีที่อยู่ใหม่ อาจจะหาซื้อที่จากผู้ที่ใจบุญ ได้แบ่งที่ให้สักแปลง สักประมาณ 50 ตรว. และก็ให้หน่วยงานระดมทุนบริจาคคนละเล็กคนละน้อย ซื้อที่ให้ยายและหลานได้อยู่อาศัย ให้สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติต่อไป
สำหรับผู้ใจบุญ ใจกุศล ที่อยากให้การช่วยเหลือ ก็สามารถโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 087-0232608 หรืออยากช่วยเหลือ สนับสนุนทุนการศึกษา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เลขบัญชี 020152963157 นางสาวพเยาว์ ภูมิชาติ


จากการสอบถาม นางพเยาว์ ภูมิชาติ เล่าว่า ตอนที่ไฟไหม้บ้านนั้น ตนเองได้ไปทำงานรับจ้างอยู่อีกที่หนึ่งเพื่อนบ้านได้โทรบอกว่าบ้านโดนไฟไหม้ตนเองแทบซ๊อกรีบมาดู ซึ่งไฟไหม้ครั้งนี้ ได้รับความเสียหายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า และก็เครื่องมือทางการเกษตรด้วย ปัจจุบัน บ้านอยู่กัน 4 คน มีทั้ง แฟนของตน พร้อมด้วยลูกชาย 1 คน และหลานสาวอีก 1 คน ซึ่งบ้านหลังนี้ที่อยู่นั้นเป็นที่ของหลวง ซึ่งบ้านหลังเก่าที่เคยอยู่นั้นอยู่ลึกไปในป่า และเขาจะขายที่ ตนจึงต้องย้ายมาหาอาศัยที่ของหลวงอยู่ ซึ่งที่อยู่ปัจจุบันนี้ก็ได้ประกอบอาชีพขายของทอด และผลไม้ต่างๆ ในส่วนของสาเหตุที่ไฟไหม้นั้นตนคิดว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร จากนี้ก็คงต้องไปอาศัยห้องประชุมของหมู่บ้านอยู่ก่อน โดยพวกหนังสือเรียนของใช้ ต่างๆของหลานสาว และของลูกชาย ได้รับความเสียหาย ต่อจากนี้ตนคงต้องขอความวิงวอนความช่วยเหลือจากหน่วยงานมาช่วย เพราะว่า หลานสาวที่อยู่ด้วยก็อายุเพียง 7 ขวบเท่านั้น
ด้าน นายสุเทพ เบียร์ดี นายอำเภอวังโป่ง กล่าวว่า แนวทางในการเยียวยาต่อจากนี้ก็คงต้องหาที่อยู่ให้ผู้ประสบภัยได้มีที่อยู่ใหม่ อาจจะหาขอซื้อที่จากผู้ที่ใจบุญ ได้แบ่งที่ให้สักแปลง สักประมาณ 50 ตรว. และก็ให้หน่วยงานระดมทุนบริจาคคนละเล็กคนละน้อยซื้อที่ให้ยายและหลานได้อยู่ โดยซื้อให้เป็นชื่อของหลานสาว เพื่อให้ได้มีที่อยู่อาศัยต่อไป

เดชา มลามาตย์/มนสิชา คล้ายแก้ว