ดีอีเอส สร้างเครือข่ายภาคอีสานต้านข่าวปลอม ระดมทุกกลยุทธ์ให้คนไทยรู้เท่าทันสื่อลวง

ดีอีเอส สร้างเครือข่ายภาคอีสานต้านข่าวปลอม ระดมทุกกลยุทธ์ให้คนไทยรู้เท่าทันสื่อลวง

 

วันที่ 21 มีนาคม 2565 ที่จังหวัดนครพนม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานเปิดกิจกรรมสร้างการรับรู้ เพื่อรู้เท่าทันและรับมือกับข่าวปลอม ครั้งที่ 2 ที่กระทรวงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจัดขึ้น เพื่อสร้างภาคีเครือข่ายศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งประกอบไปด้วย อาสาสมัครดิจิทัล (อสด.) สมาคมนักวิทยุอาสาสมัครเล่น สมาพันธ์สมาคมวิทยุสมัครเล่นควบคุมข่ายประเทศไทย และกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการขยายผลสร้างการรับรู้ วิธีสังเกตข่าวปลอม ช่องทางการแจ้งเบาะแส และเป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนการตรวจสอบเฝ้าระวังการเผยแพร่ข้อมูล เนื้อหาและข่าวสารที่เผยแพร่อยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti Fake News Center: AFNC) เป็นหนึ่งในนโยบายหลัก 12 ด้านของรัฐบาล โดยมุ่งเน้นการจัดการข้อมูลที่เป็นเท็จทางสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะข่าวปลอมที่สร้างความตื่นตระหนกและความเสียหายกับประชาชนและสาธารณชนในวงกว้าง บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วน ในการตรวจสอบและเผยแพร่ข่าวที่ถูกต้องแก่ประชาชน ยึดหลักการสำคัญในการทำงาน คือ ความเที่ยงธรรมและปราศจากอคติในการคัดเลือกข่าว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชน

โดยมีกระบวนการ ขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน ถูกต้อง กระชับ รวดเร็ว มีหน่วยงานต้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเด็นข่าวนั้น ๆ เป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันข้อเท็จจริงตามมาตรฐานสากล International Fact Checking Network หรือ IFCN เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาข่าวปลอม และในปี 2565 นี้ กระทรวงดิจิทัลฯ และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม จะมีการระดมทุกกลยุทธ์เพื่อให้ประชาชนคนไทยรู้เท่าทันสื่อลวง ทั้งในแง่ของการจัดการกับข่าวปลอม และการปราบปรามดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย กรณีเป็นการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

เน้นข่าวที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 4 กลุ่มข่าว คือ กลุ่มภัยพิบัติ (น้ำท่วม แผ่นดินไหว เขื่อนแตก สึนามิ ไฟไหม้) กลุ่มเศรษฐกิจ การเงินการธนาคาร/ หุ้น , กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายอื่น และกลุ่มนโยบายรัฐบาล /ข่าวสารทางราชการ/ความสงบเรียบร้อยของสังคม / ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถ สามารถตรวจสอบยืนยันข่าวที่มีการเผยแพร่แล้วเป็น Infographic รวมถึงแจ้งเบาะแสได้ที่เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com หรือทาง Facebook: Anti-Fake News Center ทาง Twitter @AfncThailand และทาง Line@antifakenewscenter หรือจะโทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 ก็ได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 65 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้มีมติเห็นชอบในหลักการ “ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ พ.ศ. ….” ให้จัดตั้งศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ใน 3 ระดับ ได้แก่ (1) ศูนย์ประสานงานกลาง จัดตั้งโดยกระทรวงดิจิทัลฯ มีอำนาจและหน้าที่ประสานงานกับศูนย์ประสานประจำกระทรวงและศูนย์ประสานงานประจำจังหวัด ในการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวปลอม และสร้างเครือข่ายอาสาสมัครสอดส่องดูแลข้อมูลข่าวสารปลอมบนสื่อสังคมออนไลน์ (2) ศูนย์ประสานงานประจำกระทรวง มีอำนาจและหน้าที่รับแจ้งข้อมูลที่สงสัยว่าอาจเป็นข่าวปลอมเพื่อตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริง โดยให้ปลัดกระทรวงตั้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข่าวปลอม ประชาสัมพันธ์ข่าวปลอม และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

และ (3) กระทรวงมหาดไทย จัดตั้งศูนย์ประสานงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อเท็จจริงทางสื่อสังคมออนไลน์ประจำจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมาย ทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์ มีอำนาจและหน้าที่รับแจ้งข้อมูลที่สงสัยว่า อาจเป็นข่าวปลอม เพื่อตรวจสอบและพิจารณาเนื้อหา ชี้แจงให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวปลอม และดำเนินการตามกฎหมายผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และสุดท้ายนี้ก็ขอฝากทุกคนในการช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบว่ามีเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย เช่น พนันออนไลน์ ลามกอนาจาร หมิ่นสถาบัน ละเมิดลิขสิทธิ์ เข้าข่ายผิดกฎหมายอาหารและยา การหลอกลวงออนไลน์ และภัยจากแก๊ง Call Center สามารถแจ้งมาที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 หรือสายด่วน 1441 ของตำรวจไซเบอร์ หรือจะแจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทาง www.thaipoliceonline.com” กระทรวงฯ จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายทันที

 

สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม