กาฬสินธุ์ ไฟป่าโหมไม้ภูสิงห์เบื้องต้นวอดกว่า 500 ไร่

เกิดเหตุป่าโหมไหม้ภูสิงห์ ด้านหลังวัดพุทธาวาสภูสิงห์ อำเภอสหัสขันธ์ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดสกัดเปลวเพลิงและทำแนวกันไฟ โดยใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ยังไม่สามารถควบคุมเปลวเพลิงไว้ได้ เนื่องจากภูมิประเทศที่สูง รถดับเพลิงเข้าไปได้ยาก ประกอบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้ง และกระแสลมแรง บริเวณหลังเขาภูสิงห์จึงตกอยู่ในเปลวเพลิง เบื้องต้นกินพื้นที่ป่ามากกว่า 500 ไร่

 


เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณด้านหลังวัดพุทธาวาสภูสิงห์ เชิงเขาภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ สามารถมองเห็นกลุ่มควันไฟจากไกลรัศมีนับ 10 กิโลเมตร ทั้งนี้ นางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ ได้สั่งการไปยังองค์ปกปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ อ.สหัสขันธ์ นำรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ ร่วมกับหน่วยกู้ชีพ กู้ภัย เร่งสกัดเปลวเพลิง และทำแนวกันไฟ แต่การปฏิบัติการณ์เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นที่สูง รถดับเพลิงเข้าไม่ถึง ประกอบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้ง และกระแสลมภูเขาพัดแรงตลอดเวลา จึงเป็นปัจจัยที่เอื้อให้เปลวเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว


ทั้งนี้ หลังทราบข่าวไปป่าโหมไหม้ด้านหลังวัดป่าพุทธาวาสภูสิงห์ ที่มีการเผยแพร่ทางกลุ่มไลน์และวิทยุสื่อสารของทางราชการ นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผวจ.กาฬสินธุ์ นายประสงค์ จันทร์กระจ่าง ป้องกัน จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้พื้นที่ดำเนินการควบคุมเปลวเพลิงอย่างเต็มที่ ขณะที่นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแล้อม จ.กาฬสินธุ์ นายสุรพงษ์ โพธิ์นิล หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่ากาฬสินธุ์ รวมทั้งนายอดิศักดิ์ สมคะเณย์ นายก ทต.ภูสิงห์ นายธวัชชัย บุญทานันท์ นายกฯ อบต.สหัสขันธ์ นำกำลังกำนันผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วม และติดตามสถานการณ์ รวมทั้งจัดเก็บข้าวของและเตรียมการอพยพพระเณร ไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย เนื่องจากยังไม่สามารถสกัดเปลวเพลิงไว้ได้


โดยนางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์กล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าต้นเพลิงมาจากด้านหลังวัดพุทธาวาสภูสิงห์ ซึ่งสาเหตุการเกิดไปป่าหรือต้นเพลิงนั้น ยังไม่ทราบสาเหตุ อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูแล้ง ได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้เป็นประจำทุกปี ทั้งๆที่มีการเตรียมการป้องกันอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ทั้งนี้ การเกิดไฟป่าครั้งนี้เจ้าหน้าที่พยายามช่วยกันสกัดเปลวเพลิงทุกวิถีทาง แต่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ไม่ได้ โดยกินเนื้อที่แล้วกว่า 500 ไร่ ขณะเดียวกันยังได้ประสานรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จากองค์ปกปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงเข้าสนับสนุน คาดว่าจะทำงานกันตลอดคืนหรือจนกว่าจะเปลวเพลิงจะสงบลง